ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ (2 ส.ค.) หลังฟิทช์ เรทติ้งส์ปรับลดอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating) ของสหรัฐฯ ลงสู่ระดับ AA+ จากระดับ AAA ในวันอังคาร (1 ส.ค.) เนื่องจากสถานะการคลังของสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะถดถอยลงในช่วง 3 ปีข้างหน้า ขณะที่ระบบธรรมาภิบาลอ่อนแอลง และภาระหนี้สินโดยรวมของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,902.77 จุด ลดลง 108.35 จุด หรือ -0.54% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,281.86 จุด ลดลง 9.09 จุด หรือ -0.28% และดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 33,123.12 จุด ลดลง 353.46 จุด หรือ -1.06%
นายโทนี ไซคามอร์ นักวิเคราะห์ตลาดจากบริษัท IG ระบุว่า กรณีที่ฟิทช์ลดอันดับความน่าเชื่อถือสหรัฐฯ ครั้งนี้จะทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ซึ่งหมายความว่าจะมีการลงทุนในหุ้นลดลงในเอเชีย และการแห่ลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างพันธบัตรรัฐบาลและสกุลเงินต่างๆ เช่น เงินเยนญี่ปุ่นและฟรังก์สวิส แทนที่จะเป็นสกุลเงินที่มีความเสี่ยงมากกว่า เช่น ดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตัวไร้ทิศทางในวันอังคาร โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 0.2% และแตะระดับสูงสุดในปีนี้ในช่วงสั้นๆ ส่วนดัชนี S&P500 ลบ 0.27% และดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 0.43%
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากฟิทช์ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ โดยหลังจากฟิทช์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงทันทีกว่า 100 จุด ก่อนที่จะลดช่วงลบด้วยการปรับตัวลงราว 61 จุด หรือ -0.17% แตะระดับ 35,696 จุด ในเวลา 08.18 น.ตามเวลาไทย