ปี 2566 ผ่านไปแล้ว 7 เดือน ตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวนจากปัจจัยภายนอกและภายใน (การเมืองในประเทศ) หุ้นปันผลในกลุ่ม SETHD ที่ผ่านการคัดกรองมาจากตาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังคงเป็นทางเลือกที่นักลงทุนนิยมกันมาก ซึ่ง ในบรรดา 30 หลักทรัพย์ พบว่ามี 10 หลักทรัพย์ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 ยังเป็นบวก
1.บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA ) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี66อยู่ที่ +21.08%,ขณะผลตอบแทนราคารอบ 1 สัปดาห์ อยู่ที่ +0.82% ,ราคา ณ 27 ก.ค.66 ปิด 4.94 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 5.00 / 3.02 บาท , ค่าP/E 18.87 เท่า,มาร์เก็ตแคป 73,837.36ล้านบาท,อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน
ตั้งแต่ต้นปี3.38%,ปันผลย้อนหลังปี 62 คือ 2.10%,ปี 63 คือ 4.40%, ปี 64 คือ 2.85%,ปี 65 คือ2.46% โบรคคาด WHA จะปรับเพิ่มเป้ายอดขาย ที่ดินจาก 1,750 ไร่ เป็นสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2,500-2,900 ไร่ ซึ่งสูงกว่า ประมาณการของฝ่ายวิจัยที่ 2,250 ไร่ นอกจากนี้ สัญญา PPA 125.45 MW กับ ERC จะเพิ่มมูลค่าหุ้น 0.30-0.40 บาท/หุ้น
2.บมจ.ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 อยู่ที่ +19.86%, ขณะผลตอบแทนราคารอบ1สัปดาห์ อยู่ที่ +2.42%,ราคา ณ 27 ก.ค.66 ปิด 1.69 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 1.72 / 1.15 บาท , ค่า P/E 10.70 เท่า, มาร์เก็ตแคป 163,702.81 ล้านบาท,อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 4.31%,ปันผลย้อนหลังปี 62 คือ1.90%,ปี 63 คือ 2.98%, ปี 64 คือ 3.05%,ปี 65 คือ2.69%
TTB รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 มีกำไรสุทธิ 4,566.29 ล้านบาท เติบโต 32.81% จากไตรมาส 2/2565 และเพิ่มขึ้น 6.33% จากไตรมาส 1/2566 และข้อมูลจาก Refinitiv Consensus สำหรับ TTB ระบุว่า ประมาณการรายได้รวมปี 2566 ที่ 69,930.38 ล้านบาท และประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ที่ 16,915.12 ล้านบาท
3.บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี66อยู่ที่ +18.24%, ขณะผลตอบแทนราคารอบ1 สัปดาห์ อยู่ที่ +0.50% ,ราคา ณ 27 ก.ค.66 ปิด 50.25 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 52.50 / 37.75 บาท , ค่า P/E 9.14 เท่า,มาร์เก็ตแคป 52,692.34 ล้านบาท,อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 6.17%, ปันผลย้อนหลังปี 62 คือ 4.89%,ปี 63 คือ 21.68%, ปี 64 คือ 7.95%,ปี 65 คือ7.06%
บริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดตั้งบริษัท ที.พี.เอส.แอสเสท 1 จำกัด แล้ว โดยมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 1,000,000 บาท แบ่งเป็น 100,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท และมีบริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 100 ของหุ้น ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
4.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (KTB) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 อยู่ที่ +15.25%, ขณะผลตอบแทนราคารอบ 1 สัปดาห์ อยู่ที่ +0.49% ,ราคา ณ 27 ก.ค.66 ปิด 20.40 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 20.50 / 15.60 บาท , ค่า P/E 8.15 เท่า,มาร์เกตแคป 285,111.65 ล้านบาท,อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 3.34%,ปันผลย้อนหลังปี 62 คือ 4.38%,ปี 63 คือ 6.78%, ปี 64 คือ 2.08 %,ปี 65 คือ 2.36%
KTB รายงานกำไรไตรมาส 2 ปี 2566 ที่ 10,156 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และในงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร 20,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% โดยมีกำไรจากการดำเนินงานเท่ากับ 43,308 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.9% จากในช่วงเดียวกันของปีก่อน
5.บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี66อยู่ที่ +14.87%,ขณะผลตอบแทนราคารอบ1สัปดาห์ อยู่ที่ +1.82% ,ราคา ณ 27 ก.ค.66 ปิด 224.00 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52สัปดาห์ คือ 225.00 / 181.50 บาท , ค่าP/E 25.18 เท่า,มาร์เก็ตแคป666,222.98 ล้านบาท,อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 3.43%,ปันผลย้อนหลังปี 62 คือ3.32%,ปี 63 คือ 4.17 %, ปี 64 คือ 3.01%, ปี 65 คือ 3.94%
บล.พาย คาดว่า กําไรปกติไตรมาส 2/2566 จะอยู่ที่ 6,883 ล้านบาท โตราว 4% จากไตรมาส 2/2565 เป็นผลจากการลดต้นทุนโดยเฉพาะ SG&A แต่ทรงตัวจากไตรมาสก่อน เป็นผลจากการที่บริษัทกู้หนี้ก้อนใหม่มา 20,000 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนในการชําระค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่
6.บมจ.แสนสิริ (SIRI) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 อยู่ที่ +14.77%, ขณะผลตอบแทนราคารอบ1สัปดาห์ อยู่ที่ +1.00% ,ราคา ณ 27 ก.ค.66 ปิด 2.02 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ2.10 / 0.99 บาท , ค่าP/E 5.97 เท่า,มาร์เก็ตแคป 33,170.54 ล้านบาท,อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 6.93%,ปันผลย้อนหลังปี 62 คือ11.31%,ปี 63 คือ 9.40%, ปี 64 คือ 3.25%,ปี 65 คือ 3.40%
SIRI ลุยหนักบ้านเดี่ยวแนวราบระดับลักซ์ชัวรี หลังครึ่งปีแรกยอดขายดี เตรียมเปิดใหม่อีก 18 โครงการ มูลค่า 38,400 ล้านบาท ครอบคลุมครบทั้ง 5 แบรนด์ มั่นใจตลาดบ้านเดี่ยวในครึ่งหลังของปีนี้มีทิศทางที่ดี
7.บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO ) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 อยู่ที่ +5.33%,ขณะผลตอบแทนราคารอบ1สัปดาห์ อยู่ที่ +1.14% ,ราคา ณ 27 ก.ค.66 ปิด 17.80 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52สัปดาห์ คือ 21.00 / 16.00 บาท , ค่าP/E 8.57 เท่า,มาร์เก็ตแคป 28,094.84 ล้านบาท,อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 7.02%,ปันผลย้อนหลังปี 62 คือ 1.41%,ปี 63คือ 8.56%, ปี 64 คือ 8.84%,ปี 65 คือ 6.21%
บล.หยวนต้า เผยหุ้น TASCO คาดกำไรปกติ Q2/66 ที่ 910 ล้านบาท เติบโตสูง YoY จากอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจยางมะตอยที่สูงขึ้นมาก YoY และการเติบโตของธุรกิจก่อสร้าง ขณะที่ QoQ คาดกำไรปกติลดลงหลังปริมาณขายยางมะตอยลดลงตามปัจจัยฤดูกาลและอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงจากฐานที่สูง QoQ
8.บมจ.ปตท. (PTT) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 อยู่ที่ +4.51%, ขณะผลตอบแทนราคารอบ1สัปดาห์อยู่ที่ +2.21% ,ราคา ณ 27 ก.ค.66 ปิด 34.75 บาท, ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 38.25 / 29.50 บาท , ค่า P/E 10.62 เท่า,มาร์เก็ตแคป 992,564.12 ล้านบาท,อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี5.76%,ปันผลย้อนหลังปี 62 คือ 4.55%,ปี 63 คือ 4.71%, ปี 64 คือ 2.63%,ปี 65 คือ 6.02%
PTT ยังมีปัจจัยบวก ทั้งราคาน้ำมันเริ่มกลับสู่ทิศทางขาขึ้น หลังเศรษฐกิจโลกยังดูแข็งแรง ขณะที่หุ้นปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี หรือ Book value และเป็นอีกหุ้นที่มียอด short สะสมสูง
9.บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 อยู่ที่ +2.59%,ขณะผลตอบแทนราคารอบ1สัปดาห์ ไม่เปลี่ยนแปลง ,ราคา ณ 27 ก.ค.66 ปิด 11.90 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 12.80 / 9.30 บาท , ค่าP/E 6.65 เท่า,มาร์เก็ตแคป 37,436.20ล้านบาท,อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 5.46%,ปันผลย้อนหลังปี 62 คือ 5.37%,ปี 63คือ 5.52%, ปี 64 คือ 4.71%,ปี 65 คือ 4.31%
บล.ฟิลลิป คาดยอดพรีเซล Q2/66 ที่ 1.23 หมื่นล้านบาท โตทั้ง QoQ และ YoY โดยเป็นสัดส่วนของโครงการใหม่ในปีนี้กว่า 40% สะท้อนให้เห็นถึงโครงการใหม่ยังขายได้ต่อเนื่อง ภาพรวมงบครึ่งปีทำได้ดีทำให้ราคาหุ้นค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าตลาด เป็นหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ในประเทศและปัจจัยต่างประเทศค่อนข้างน้อย
10. บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี66อยู่ที่+0.25 %,ขณะผลตอบแทนราคารอบ 1 สัปดาห์ อยู่ที่ +2.31% ,ราคา ณ 27 ก.ค.66 ปิด 99.50 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 104.00 / 88.50 บาท , ค่าP/E 11.03 เท่า,มาร์เก็ตแคป79,664.24 ล้านบาท,อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 7.79%,ปันผลย้อนหลังปี 62 คือ7.05%,ปี 63 คือ 8.76%, ปี 64 คือ 6.56 %,ปี 65 คือ 7.20%
TISCO กำไรไตรมาส 2 รวม 1,853.89 ล้านบาท เพิ่ม 0.3% รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 10.1% จากการปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่รายได้อื่นลด
อย่างไรก็ตาม ในหุ้นกลุ่ม SETHD ในขณะนี้มีเพียง 10หลักทรัพย์เท่านั้นที่ให้ผลตอบแทนราคาเป็นบวก ส่วนอีก20หลักทรัพย์ยังติดลบ ต้องติดตามว่าเหลืออีก5 เดือนจะทำราคาปรับตัวขึ้นมาไดมากน้อยขนาดไหน