ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลประกอบการธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 2 ปี 2566 มีกำไรสุทธิ 6.43-6.63 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 5.58 หมื่นล้านบาท โดยได้รับมีแรงหนุนจากดอกเบี้ยที่ทยอยขยับขึ้น แต่สินเชื่อที่ขยายตัวช้าลงมาอยู่ในกรอบ 0.5-0.8% YoY อาจส่งผลทำให้รายได้ดอกเบี้ยและ NIM ของระบบแบงก์ไทยขยับขึ้นได้ในกรอบจำกัด โดยคาดว่า NIM จะปรับขึ้นมาอยู่ที่กรอบ 2.96-3.00%
นอกจากนี้ สัญญาณการฟื้นตัวแบบเปราะบางของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการมีแรงหนุนน้อยลง ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่น่าจะยังคงกันสำรองแบบระมัดระวัง เพราะสัดส่วน NPL มีโอกาสขยับขึ้นมาอยู่ในกรอบ 2.68-2.72% ต่อสินเชื่อรวม
สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2566 นั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า แม้ภาพรวมกำไรสุทธิของระบบแบงก์ไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ที่น่าจะทำได้ในกรอบประมาณ 1.19-1.21 แสนล้านบาท อาจทำได้สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่การประคองรายได้จากธุรกิจหลักในช่วงครึ่งปีหลังยังมีโจทย์ท้าทายจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง และยังต้องเตรียมปรับตัวรับเกณฑ์หรือกติกาที่อาจทยอยปรับเปลี่ยนมากขึ้นซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการเติบโตของรายได้จากธุรกิจหลักของธนาคารพาณิชย์ในระยะข้างหน้า