หุ้นไทยทะยานปิดแรง +23.90 จุด โบรกฯ ชี้ตลาดมองโอกาสเปลี่ยนตัวผู้ที่เสนอชื่อให้รัฐสภาโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่เข้ามาแทนที่ หรือการจับขั้วทางการเมืองใหม่ หลังจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตจากพรรคก้าวไกลไม่สามารถผ่านการโหวตในรอบแรกไปได้ ประเมินกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้า แนวต้านที่ 1,525 จุด และแนวรับที่ 1,500 จุด แนะจับตาโหวตนายกรัฐมนตรีรอบที่ 2 ในรอบถัดไป
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 14 ก.ค.2566 ปรับตัวขึ้นร้อนแรงกว่า +23.90 จุด หรือ +0.19% โดยปิดตลาดที่ 1,517.92 จุด มูลค่าซื้อขาย 43,640.01 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีปรับตัวบวกขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุด 1,519.08 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,497.85 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 422 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 143 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 71 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -2,959.04 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,651.08 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +1,070.91 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +237.04 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,594.91 ล้านบาท ปิดที่ 35.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
2.GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,836.30 ล้านบาท ปิดที่ 48.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
3.BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,495.84 ล้านบาท ปิดที่ 158.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
4.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,370.57 ล้านบาท ปิดที่ 70.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
5.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,351.79 ล้านบาท ปิดที่ 220.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,072.66 จุด เพิ่มขึ้น 35.92 จุด หรือ 1.76% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 937.80 จุด เพิ่มขึ้น 15.97 จุด หรือ 1.73% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 461.71 จุด เพิ่มขึ้น 10.70 จุด หรือ 2.37%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้พุ่งขึ้นกว่า 20 จุดรับแรงหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่ กลุ่มพลังงาน สื่อสาร และแบงก์ โดยเฉพาะกลุ่มทุนใหญ่ฟื้นกลับมาช่วยหนุนดัชนี เนื่องจากตลาดมองโอกาสเปลี่ยนตัวผู้ที่เสนอชื่อให้รัฐสภาโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตจากพรรคก้าวไกลสอบไม่ผ่านในรอบแรก
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นไทยยังปรับขึ้นมาตามหลังตลาดหุ้นภูมิภาคที่เมื่อวานนี้ขึ้นไปแรง แต่บ้านเรายังรอผลโหวตนายกรัฐมนตรีทำให้แกว่งตัวกรอบแคบ วันนี้จึงขึ้นไปได้ดีกว่าตลาดภูมิภาคที่ตอบรับการคลายกังวลต่อทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เพราะเงินเฟ้อสหรัฐฯ ชะลอลงอย่างต่อเนื่อง
"แนวโน้มสัปดาห์หน้ามองทิศทางดัชนีแกว่งไซด์เวย์หรือไซด์เวย์อัป เกาะติดปัจจัยการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบที่ 2 ในวันที่ 19 ก.ค.จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ รวมถึงท่าทีของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยที่จะหารือกัน โดยให้แนวต้าน 1,525 จุด แนวรับ 1,500 จุด" นายชัยพร กล่าวทิ้งท้าย