หุ้นไทยปิดตลาด +2.88 จุด นักวิเคราะห์เผยดัชนีฯวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีหุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นพลังงานขึ้นหนุนดัชนี อีกทั้งปัจจัยบวกต่างประเทศหลังตัวเลข CPI ออกมาชะลอตัวมากกว่าที่คาดไว้ ขณะที่ผลโหวตนายก "พิธา" คะแนนไม่ถึงกึ่งหนึ่งของ 375 เสียง พลาดการรับรองในรอบแรก มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,510 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,490 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 13 ก.ค. 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +2.88 จุด หรือ +0.19% โดยปิดตลาดที่ 1,494.02 จุด มูลค่าซื้อขาย 40,447.57 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,497.24 จุด ในทางกลับกันทิศทางขาลงปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,487.48 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 259 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 181 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 195 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -11.67 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -425.07 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +121.10 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +315.64 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,538.41 ล้านบาท ปิดที่ 69.25 บาท ลดลง 2.00 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,224.69 ล้านบาท ปิดที่ 62.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,037.51 ล้านบาท ปิดที่ 34.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
4.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,829.25 ล้านบาท ปิดที่ 27.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,402.20 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,036.74 จุด เพิ่มขึ้น 4.58 จุด หรือ 0.23% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 921.83 จุด เพิ่มขึ้น 1.18 จุด หรือ 0.13% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 451.01 จุด เพิ่มขึ้น 2.02 จุด หรือ 0.45%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยที่มีหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ปรับเพิ่มขึ้น จากการเก็งผลการดำเนินงานไตรมาส2/66 ที่คาดว่าจะออกมาดี รวมถึงหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้น จากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ช่วยหนุนดัชนี
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ปรับเพิ่มขึ้น ตามตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ หลังจากรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาชะลอตัวมากกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย ซึ่งช่วยหนุนต่อ sentiment ของตลาดหุ้น แม้ว่าปัจจัยในประเทศยังรอติดตามผลการโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจากผลการโหวต ผลปรากฏว่าที่ประชุมรัฐสภามีมติ เห็นชอบจำนวน 324 เสียง ไม่เห็นชอบ 182 เสียง และงดออกเสียง 199 เสียง ทำให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้เสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งหรือ 375 เสียงของสภาทำให้พลาดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยไปโดยอัตโนมัติ
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดว่ายังแกว่งไซด์เวย์ ซึ่งยังคงต้องรอผลของการโหวตนายกรัฐมนตรีในช่วงเย็นวันนี้ว่าจะเป็นอย่างไร โดยที่ปัจจัยความไม่แน่นอนการเมืองในประเทศยังคงเป็นปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทย โดยให้แนวต้าน 1,510 จุด แนวรับ 1,490 จุด