"บิทคับ" โต้ข่าวลือ โล๊ะพนักงาน หลังกำไรหด ตลาดคริปโตซึม

หลังมืข่าวลือกระฉ่อนถึงกระดานเทรด "บิทคับ" ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่กินส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ของไทย ปลดพนักงานลงเนื่องจากอุตสาหกรรมคริปโตซบเซา วอลุ่มเทรดที่เคยได้ (จากค่าธรรมเนียมเทรดเป็นกอบเป็นกำ) กำไรจำนวนมหาศาลต่อปีลดลงไปจำนวนมาก หลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อ และฤดูหนาวยาวนานของตลาดคริปโต ซึ่งหลังจากที่มีข่าวลือออกมาไม่นาน (ส่วนนึงก็มาจากวงในที่โดนแจ๊กพอตถูกปลดฟ้าผ่า) ทำให้กลายเป็นเผือกร้อนที่บริษัทต้องรีบออกมาแก้ข่าวทันที

โดยล่าสุด บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ในนามกลุ่มบิทคับ ก็ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงกระข่าวการปรับลดจำนวนพนักงาน และปรับลดสวัสดิการบางส่วน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ซบเซาว่า เนื่องด้วยสภาพเศรษฐกิจในภาพรวมที่ผ่านมาอยู่ในช่วงขาลงและอยู่ในสภาวะซบเซา ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบธุรกิจเป็นวงกว้าง กลุ่มบิทคับจึงมีแนวทางการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายเพื่อให้ภาพรวมการบริหารจัดการธุรกิจของกลุ่มบิทคับสอดคล้องและรองรับต่อสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม การปรับจำนวนพนักงานที่เกิดขึ้นนั้นเป็นจำนวนที่น้อยเมื่อเทียบกับจำนวนพนักงานทั้งหมดในกลุ่มบิทคับ โดยสำหรับบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ปรับลดลง 1.81% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด และบริษัทในกลุ่มบิทคับอื่นมีการปรับลดอยู่ที่ 5.47% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดในกลุ่มบิทคับ (นอกเหนือจากบิทคับ ออนไลน์) อีกทั้งการปรับลดความช่วยเหลือ เป็นเพียงการปรับลดเพียงส่วนเดียวจากความช่วยเหลืออื่นที่บริษัทให้แก่พนักงาน

นอกจากนี้กลุ่มบิทคับได้มีการบริหารจัดการ รวมถึงพิจารณาแนวทางการปรับลดค่าใช้จ่ายของกลุ่มบิทคับด้วยความสุจริต โปร่งใส และคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึงพนักงานเป็นสำคัญมาโดยตลอด โดยกลุ่มบิทคับได้พิจารณาถึงแนวทางการดำเนินการที่จะส่งผลกระทบต่อพนักงานให้น้อยที่สุด แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลจากปัจจัยภายนอก ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจหลายรายอาจได้รับผลกระทบในทำนองเดียวกันซึ่งบริษัทอยู่ในระหว่างการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ดี กลุ่มบิทคับจะยังคงยึดมั่นหลักการในการกำกับดูแลกิจการที่ดีและคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าผู้มีอุปการะคุณทุกท่านและพนักงานของเรา บริษัทขอให้โปรดเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจของกลุ่มบิทคับต่อไป

อย่างไรก็ตามคงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยลบต่างๆโดยเฉพาะปัญหาเงินเฟ้อทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนมาตรการกำกับดูแลการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความเข้มงวดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวง หรือความไม่มีเสถียรภาพและความปลอดภัยในระบบ ทำให้นักลงทุนจำนวนมากเกิดความเสียหายในการลงทุน และล้มเลิกถอนตัวไปจากอุตสาหกรรม

ขณะเดียวกัน ในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาหมอกควันทั้งขาขึ้นและขาลงมาพักใหญ่ ที่ให้ผู้ประกอบธุรกิจมีภาพของอุตสาหกรรมคริปโตที่กว้างขึ้น มีผู้เล่นรายใหม่ๆ ที่มีศักยภาพสูงเข้ามาในอุตสาหกรรมคริปโตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น SCBX ที่จากเดิมเคยยื่นดีลข้อเสนอซื้อ บิทคับ แต่แล้วด้วยราคาเสนอขายที่แพงเกินไป ทำให้ทาง SCBX กลับไปทบทวน และศึกษาการลงทุนจนยกเลิกดีลซื้อกิจการ และนำบริษัทลูกคือ InnovestX เข้ามาสู่อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมี TDX ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายโทเคนดิจิทัลภายใต้การกำกับดูแลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงมาเล่นในอุตสาหกรรมนี้ด้วย อีกทั้งยังมี GULF Binance ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง GULF และ Binance ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับ 1 ของโลก ที่ได้รับใบอนุญาติจากสำนักงาน ก.ล.ต. ประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว และเตรียมที่จะเปิดให้บริการภายในปลายปีนี้ ซึ่งจะทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของอุตสาหกรรมคริปโตในประเทศไทยมีการกระจายตัวมากขึ้น