xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยพลิกร่วงปิด -5.82 จุด หวั่นชุมนุมทางการเมืองกดดัน จับตาโหวตนายกฯพรุ่งนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด -5.82 จุด โบรกฯ เผยตลาดกังวลการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งอาจส่งผลลบต่อภาพรวมการลงทุน หลังมีสัญญาณการนัดชุมนุมในหลายพื้นที่หวังกดดันการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ เนื่องจากที่ กกต. มีการเสนอยื่นศาล รธน.พิจารณาปมถือหุ้นสื่อ ITV ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประเมินภาพรวมการลงทุนวันพรุ่งนี้คาดตลาดซึมตัว เนื่องจากตลาดทุนเฝ้าติดตาม การโหวตเลือกนายกฯ โดยมองแนวรับ 1,480 จุด และแนวต้าน 1,500 จุด แนะจับตาปัจจัยต่างประเทศในประเด็นเงินเฟ้อสหรัฐที่จะประกาศออกมาในคืนนี้ด้วย

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 12 ก.ค. 2566 ปรับตัวลดลง -5.82 จุด หรือ -0.39% โดยปิดตลาดที่ 1,491.14 จุด มูลค่าซื้อขาย 52,288.15 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลงในช่วงบ่าย จากนักลงทุนกังวลการชุมนุมทางการเมืองเพื่อกดดันการเลือกนายกรัฐมนตรีในหลายพื้นที่ ดดยในระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,507.01 จุด ในทางกลับกันขาลงที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,488.01 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 91 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 160 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 388 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,516.63 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +1,374.79 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +68.08 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +73.76 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,488.73 ล้านบาท ปิดที่ 155.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
2.GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,306.30 ล้านบาท ปิดที่ 47.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
3.KTC มูลค่าการซื้อขาย 1,910.24 ล้านบาท ปิดที่ 46.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,887.12 ล้านบาท ปิดที่ 71.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
5.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,644.15 ล้านบาท ปิดที่ 34.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่ 155.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาทหรือ 1.97%
2.SCC ปิดที่ 326.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาทหรือ 0.93%
3.EGCO ปิดที่ 131.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาทหรือ 1.95%
4.BH ปิดที่ 218.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาทหรือ 0.93%
5.GULF ปิดที่ 47.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาทหรือ 3.85%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.JMT ปิดที่33.00 บาท ลดลง 2.50 บาทหรือ 7.04%
2.DELTA ปิดที่99.00 บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ 1.98%
3.HANA ปิดที่43.00 บาท ลดลง 1.75 บาทหรือ 3.91%
4.CENTEL ปิดที่45.25บาท ลดลง 1.75 บาทหรือ 3.72%
5.SCB ปิดที่108.00บาท ลดลง 1.50 บาทหรือ 1.37%

ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,032.16 จุด ลดลง -5.53 จุด หรือ -0.27% ดัชนี SET50 ปิดที่ 920.65 จุด ลดลง -0.67 จุด หรือ -0.07% ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 448.99 จุด ลดลง -7.59 จุด หรือ -1.66%

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ช่วงบ่ายปรับตัวลง หลังช่วงเช้าปรับตัวรีบาวด์มาบวกดีรับข่าวคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงหรือไม่เหตุถือครองหุ้นสื่อ ITV รวมทั้งมีคำขอให้ศาลสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ไว้จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย

"หลังจาก กกต.ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยมีการนัดชุมนุมกันในหลายจังหวัด รวมถึงการนัดชุมนุมที่สกายวอล์คหน้าหอศิลป์กรุงเทพวันนี้เวลา 18.00 น.ด้วย ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลอย่างมากว่าจะเกิดความวุ่นวายกดดันให้ดัชนีฯ ย่อตัวลงมา" นายวทัญ กล่าว

ขณะที่นักลงทุนยังรอติดตามปัจจัยในต่างประเทศคืนนี้ คือ ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคประจำเดือน มิ.ย. โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวจากระดับ 4.0% ในเดือน พ.ค.

"แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดฯ ซึมตัว แม้อาจได้ปัจจัยหนุนจากเงินเฟ้อสหรัฐที่มีโอกาสออกมาต่ำคาด แต่ความเคลื่อนไหวของการเมืองในประเทศยังกดดัน โดยให้ติดตามการโหวตนายกรัฐมนตรี ให้แนวรับไว้ที่ 1,480 จุด และแนวต้าน 1,500 จุด" นายวทัญ กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น