xs
xsm
sm
md
lg

"สโตนวัน" ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 65 ล้านหุ้น ระดมทุนใน mai

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"สโตนวัน" ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 65 ล้านหุ้น เดินหน้าเข้าตลาด mai ระดมทุนใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจเหมืองหินและแร่ และเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะเป็นผู้ประกอบการเหมืองหินอุตสาหกรรมรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาด mai

บริษัทหลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท สโตนวัน จำกัด (มหาชน) หรือ STONE เปิดเผยว่า ขณะนี้ สโตนวันได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของบริษัทเพื่อประกอบการยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2566 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดย STONE จะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 65 ล้านหุ้นคิดเป็นร้อยละ 21.16 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท

สำหรับจุดเด่นของ STONE คือ เป็นผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 27 ปี ในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้างชนิดหินแกรนิตและชนิดหินปูน ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แร่โดโลไมต์ รวมถึงการให้บริการด้านขนส่งให้แก่ลูกค้าที่ไซต์งานอย่างครบวงจร โดยบริษัทมุ่งเน้นในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และมุ่งมั่นในการให้บริการเพื่อตอบสนองความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า นอกจากนี้ บริษัทยังมีการศึกษาและวิจัยในการขยายผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น และสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ปัจจุบัน และยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการบริหาร คุณภาพของสินค้า การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสำคัญ

โดย STONE ยังมีจุดเด่นที่สำคัญอีก คือ มีฐานะการเงินที่มั่นคงแข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำเพียง 0.22 เท่า และมีส่วนของทุนสูงถึงกว่า 600 ล้านบาท จึงมีศักยภาพที่สูงในการขยายธุรกิจได้อีกในอนาคตภายหลังจากการระดมทุนจากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นที่ยั่งยืนในระยะยาวต่อไป

ในด้านผลการดำเนินงาน ปี 2565 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 279.55 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21.56 ล้านบาท โดยรายได้หลักของกลุ่มบริษัทมาจากธุรกิจเหมืองหินและแร่โดโลไมต์ โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 95% ของรายได้รวม ซึ่งปัจจุบันบริษัทและบริษัทย่อยมีเหมืองหินและแร่ ประกอบด้วย เหมืองหนองข่า (ผลิตและจำหน่ายหินแกรนิต) ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี และเหมืองจอมบึง (ผลิตและจำหน่ายหินปูนและแร่โดโลไมต์) ตั้งอยู่ที่อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี โดยมีพื้นที่ทั้งหมดรวมกว่า 580 ไร่ โดยกระจายไปทั้งภาคกลางและภาคตะวันออกซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ

นายทรงวุธ เวชชานุเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนวัน จำกัด (มหาชน) หรือ STONE กล่าวว่า กลุ่มบริษัทสโตนวัน เราเชี่ยวชาญในธุรกิจเหมืองหินและแร่ โดยผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หินอุตสาหกรรมชนิดหินแกรนิตชนิดหินปูน และผลิตภัณฑ์แร่โดโลไมต์ รวมถึงการให้บริการด้านขนส่งให้แก่ลูกค้าอย่างครบวงจร ตอบโจทย์การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หินอุตสาหกรรมเพื่อใช้ในการก่อสร้าง ทั้งอาคาร ที่พักอาศัย ถนน เขื่อน และอื่นๆ โดยการนำไปใช้งานจะขึ้นอยู่กับขนาดและชนิดของหินที่จะนำไปใช้ให้เหมาะสมกับงานก่อสร้างต่างๆ โดยสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย เช่น การใช้ในงานผสมคอนกรีต งานทำถนน โรยทางรถไฟ ทำคันทางของถนนหรือเขื่อน หรือผสมยางมะตอย เป็นต้น

รวมทั้งการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แร่โดโลไมต์ ทั้งชนิดก้อนและชนิดผง โดยบริษัทย่อยเป็นผู้ผลิตแร่โดโลไมต์ที่เหมืองจอมบึง ซึ่งแร่โดโลไมต์สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย เช่น การใช้ในอุตสาหกรรมเหล็ก อุตสาหกรรมซีเมนต์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง งานผลิตแก้ว งานการเกษตร หรืองานบำบัดน้ำ เป็นต้น

การระดมทุนครั้งนี้เพื่อสนับสนุน STONE เดินหน้าสู่เป้าหมายที่จะขยายแหล่งวัตถุดิบ และการผลิตในอนาคต ต่อยอดธุรกิจหินอุตสาหกรรมให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยการเข้าลงทุนในธุรกิจเหมืองหินที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว หรือการพัฒนาเหมืองหินใหม่ ซึ่งอยู่ในที่ตั้งที่เหมาะสม พร้อมด้วยเจตนารมณ์ที่ทำเหมืองอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีการกำหนดมาตรการฟื้นฟูพื้นที่เหมืองระหว่างการทำเหมืองเพื่อให้เติบโตก้าวไปพร้อมกับบริษัท ด้วยการจัดให้มีกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพ กองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่เหมือง และกองทุนฟื้นฟูพื้นที่ทำเหมือง ซึ่งบริหารจัดการกองทุนโดยคณะกรรมการมวลชนสัมพันธ์

บริษัทยึดมั่นการดำเนินธุรกิจภายใต้หลัก ESG ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า ธุรกิจควรเติบโตควบคู่ไปกับการคำนึงถึง 3 ปัจจัยหลัก คือ สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ซึ่งล้วนมีความเชื่อมโยงและเอื้อต่อความยั่งยืนของธุรกิจ นอกจากนี้ บริษัทได้รับรางวัลมาตรฐานสิ่งแวดล้อมจากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งรางวัลสถานประกอบการเครือข่ายที่มีการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง (CSR-DPIM Continuous Award) ประเภทเหมืองแร่ และรางวัลมาตรฐานเหมืองแร่สีเขียว (Green Mining Continuous Award) ประเภทเหมืองแร่ และประเภท โรงงานโม่ บด หรือย่อยหิน รวมถึงได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 3 ระบบสีเขียว (Green System) ตั้งแต่ปี 2556 อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทเน้นด้านคุณภาพสินค้า การจัดการสิ่งแวดล้อม และการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย จนได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015, ISO 14001:2015 และ ISO 45001:2018 อย่างต่อเนื่อง

สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจเหมืองหินและแร่ หรือใช้ในการซื้อเหมืองหินและแร่ หรือใช้ในการก่อสร้างอาคารโรงงาน รวมถึงการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเข้าสู่อุตสาหกรรมแร่ 4.0 และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจ สร้างความยั่งยืนในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น