ไทยพาร์เซิล แจงผู้ถือหุ้นใหญ่ "AQUA-สุระ-หมอพงศ์ศักดิ์" ยังถือหุ้นครบ ไม่ได้ขายออก และไม่ได้รับจัดสรรหุ้น IPO มั่นใจอนาคตเป็นหุ้น High Growth นำเงินระดมทุนรุกขยายธุรกิจทันที ดันรายได้ปีนี้เข้าเป้าโตกว่า 15%
นายภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวตามสื่อสาธารณะหลายแห่งเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลที่ได้รับการจัดสรรหุ้น IPO ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนเกิดความเข้าใจผิด
บริษัทขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
1.ผู้ถือหุ้นของบริษัทตามที่ปรากฏในข่าว ได้แก่ นายสุระ คณิตทวีกุล และนายพงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี นั้นได้เข้ามาลงทุนในช่วงที่บริษัทมีการลงทุนขยายธุรกิจตั้งแต่ในปี 2564 และบริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือAQUA ได้เข้ามาลงทุนในปี 2565
2.บริษัทยืนยันว่าผู้ถือหุ้นดังกล่าวทุกรายไม่ได้รับการจัดสรรหุ้น IPO ตามที่เป็นข่าว และยังคงถือหุ้นจำนวนเท่าเดิม
และ 3.บริษัทได้รับการยืนยันจากผู้ถือหุ้นดังกล่าวทุกรายว่าไม่ได้มีการขายหุ้นในวันแรก และยังถือหุ้นครบทั้งจำนวน
ทั้งนี้ บริษัทไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญด้านโครงสร้างการถือหุ้นและการประกอบธุรกิจ โดยจะนำเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับจากการระดมทุน (IPO) ไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ได้เปิดเผยไว้ในหนังสือชี้ชวน เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่บริษัทและผูัลงทุนต่อไป
โดยขั้นแรกเราจะนำเงินไปซื้อยานยนต์ EV ตามแผนการดำเนินงานเพื่อประหยัดต้นทุนเชื้อเพลิงได้กว่า 50% ซึ่งช่วยผลักดันให้มีอัตรากำไรขั้นต้น (Margin) เพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงลงทุนขยายศูนย์คัดแยกสินค้าในต่างจังหวัด ลงทุนไอทีและเพิ่มจุดกระจายสินค้า รองรับดีมานด์ลูกค้า SMEs ในต่างจังหวัด เพิ่มฐานรายได้ ทำให้มั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตมากกว่า 15% ตามแผนงานที่วางไว้ พร้อมเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า
“มั่นใจอนาคตบริษัทเติบโตแบบ High Growth เหตุหลังจากได้รับเงินระดมทุน บริษัทเริ่มเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนทันที คือ ลงทุน EV Truck เตรียมระบบ IT สร้างสถานีชาร์จ ขยายศูนย์คัดแยกสินค้าในต่างจังหวัด และเพิ่มจุดกระจายสินค้า เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจ มั่นใจปีนี้รายได้โตเกิน 15% ตามแผน” นายภัทรลาภ กล่าว
สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้น TPL วันนี้ (3 ก.ค.) ล่าสุด เวลา 10.22 น. ปรับเพิ่มขึ้น 9.91% หรือเพิ่มขึ้น 0.22 บาท มาอยู่ที่ 2.44 บาท มูลค่าซื้อขาย 322.81 ล้านบาท ขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 2.54 บาท และลงไปทำระดับต่ำสุดที่ 2.30 บาท