ในปัจจุบัน หุ้นกลุ่มลีสซิ่ง จัดเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่นักลงทุนให้ความสนใจกันมาก โดย มี อยู่ 41 บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งในปี 2566 ผ่านมา เกือบ 6 เดือน ผลตอบแทนราคา YTD ในภาพรวมของกลุ่ม ส่วนใหญ่จะติดลบ มีเพียง MTC และ AEONTS เท่านั้นที่ผลตอบแทนราคา YTD ยังเป็นบวก เรามาตรวจแถว12หุ้นลิสซิ่งชั้นนำของตลาดหุ้นไทยว่าเป็นอย่างไรบ้าง
1.บมจ. บัตรกรุงไทย (KTC ) Market Cap 129,561.29 ล้านบาท, ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี66อยู่ที่ -14.83%,ขณะผลตอบแทนราคารอบ1 สัปดาห์ อยู่ที่ -5.19% ,ราคา ณ 16 มิ.ย.66 ปิด 50.25 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 61.50/49.25 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 2.29%, ค่าP/E 17.99 เท่า ,งบไตรมาส 1/2566 คือ 1,871.71 ล้านบาท ขณะที่ งบไตรมาส 1/2565 คือ 1,747.27 ล้านบาท, อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ 7.12%
ปี 66 เตรียมปรับเพิ่มเป้าหมายยอดใช้จ่ายผ่านบัตร โต 15% จากเดิมที่ตั้งไว้ 10% รวมถึงมีกำไรสุทธิ โตกว่า 7.07 พันลบ. พอร์ตสินเชื่อรวม โต 15% หรือ 1.15 แสนลบ. จากแนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งปีหลังที่จะดีกว่าครึ่งปีแรก
2.บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) Market Cap 83,740.00 ล้านบาท,ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี66อยู่ที่ +3.95%,ขณะผลตอบแทนราคารอบ1สัปดาห์ อยู่ที่ -4.24% ,ราคา ณ 16 มิ.ย.66 ปิด 39.50 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 51.25/30.75 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 2.41%, ค่า P/E 17.49 เท่า ,งบไตรมาส 1/2566 คือ 1,070.08 ล้านบาทขณะที่ งบไตรมาส 1/2565 คือ 1,375.56 ล้านบาท,อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ -22.21 %
ทิศทางการเปิดสาขาใหม่ในปีนี้ บริษัทวางเป้าหมายไว้ที่ 600 แห่ง ในช่วงไตรมาส 1/2566 เปิดไปแล้ว 294 สาขา จึงคาดว่าปีนี้จะสามารถทำได้ตามเป้าหมาย สนับสนุนให้สิ้นปีบริษัท มีสาขารวมทั้งสิ้น 7,200 สาขาได้ สำหรับเงินลงทุนรวมหลักร้อยล้านบาทในปีนี้นอกจากใช้ขยายสาขา ยังใช้ลงทุนในระบบไอที , การปล่อยสินเชื่อ
3.บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) Market Cap 69,687.48 ล้านบาท,ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 อยู่ที่ +4.10,ขณะผลตอบแทนราคารอบ1สัปดาห์ อยู่ที่ -7.73% ,ราคา ณ 16 มิ.ย.66 ปิด 50.75 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 61.00/38.00 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 3.55%, ค่าP/E 15.02 เท่า ,งบไตรมาส 1/2566 คือ 1,200.42 ล้านบาท ขณะที่ งบไตรมาส1/2565 คือ 1,035.95 ล้านบาท,อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ 15.88 %
ผู้บริหารระบุจะเห็นได้ว่าการเติบโตของพอร์ตที่เพิ่มขึ้น ส่งเสริมให้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งคาดหมายว่าไตรมาส 2 จะยังโตได้ต่อเนื่อง เพื่อให้พอร์ตสินเชื่อเป็นไปตามเป้าทั้งปีที่วางไว้ที่ 20-30% และบริษัทจะดูแลเรื่องคุณภาพ NPL อย่างใกล้ชิด เพื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่เกิน 3-4%
4.บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) Market Cap 69,675.11 ล้านบาท, ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี66อยู่ที่ -5.42%,ขณะผลตอบแทนราคารอบ1สัปดาห์ อยู่ที่ -8.15% ,ราคา ณ 16 มิ.ย.66 ปิด 24.80 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ28.44/20.44 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 1.05%, ค่าP/E 19.06 เท่า ,งบไตรมาส1/2566 คือ 955.12 ล้านบาท ขณะที่ งบไตรมาส1/2565 คือ 940.36 ล้านบาท,อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ1.57 %
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกถึง 2 ครั้งภายในปีนี้ เป็นลบต่อกลุ่มหุ้นไฟแนนซ์ ทั้ง SAWAD, MTC, TIDLOR รวมทั้งหุ้นกลุ่มเช่าซื้อ
5.บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) Market Cap 59,843.17 ล้านบาท,ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี66อยู่ที่ -40.58%,ขณะผลตอบแทนราคารอบ1สัปดาห์ อยู่ที่ -4.65% ,ราคา ณ 16 มิ.ย.66 ปิด 41.00 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 82.75/36.25 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 2.63%, ค่าP/E 32.67 เท่า ,งบไตรมาส 1/2566 คือ 453.07 ล้านบาท ขณะที่ งบไตรมาส1/2565 คือ 366.96 ล้านบาท,อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ 23.47%
บล.กรุงศรี พัฒนสิน ยังคงคำแนะนำซื้อหุ้น JMT ให้ราคาเป้าหมายที่ 56 บาทต่อหุ้น มองบวกต่อการซื้อหนี้ก้อนใหญ่ 6 หมื่นล้านบาท นับเป็นการซื้อหนี้ก่อนใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท คาดว่าบริษัทใช้เงินลงทุนในการซื้อหนี้ดังกล่าวอยู่ที่ 6-9 พันล้านบาท ซึ่งหากรวมกับไตรมาส 1/66 ที่ซื้อไปแล้ว 1.4 พันล้านบาท ทำให้มีโอกาสปีนี้จะทะลุเป้าลงทุนของบริษัทที่ 1.0-1.5 หมื่นล้านบาท
6.บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) (AEONTS) Market Cap 48,000.00 ล้านบาท,ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี66อยู่ที่ +5.49%,ขณะผลตอบแทนราคารอบ1สัปดาห์ อยู่ที่ -4.48% ,ราคา ณ 16 มิ.ย.66 ปิด 192.00 บาท, ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 208.00/152.00 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 2.86%, ค่าP/E 12.58 เท่า ,งบไตรมาส1/2566 คือ 3,815.15 ล้านบาท ขณะที่ งบไตรมาส1/2565 คือ 3,553.04 ล้านบาท, อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ 7.38%
บล.ดาโอ ยังคงราคาเป้าหมายที่ 210.00 บาท อิง FY2024EPBV ที่ 2.1x (5-yr average PBV) เราประเมินกำไรปกติ 1QFY24E (มี.ค.-พ.ค. 23) ที่ 701 ล้านบาท (-31% YoY, -11% QoQ) โดยกำไรปกติหดตัว YoY และ QoQ จาก credit cost ที่เพิ่มขึ้นเป็น 880 bps เพื่อรองรับการตัดจำหน่าย และ NPL ที่สูงขึ้น
7.บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM Market Cap 36,198.87 ล้านบาท,ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี66อยู่ที่ -29.11%, ขณะผลตอบแทนราคารอบ1สัปดาห์ อยู่ที่ -2.61% ,ราคา ณ 16 มิ.ย.66 ปิด 11.20 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52สัปดาห์ คือ 18.60/10.50 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 4.91%, ค่าP/E 13.51เท่า ,งบไตรมาส1/2566 คือ 266.56ล้านบาทขณะที่ งบไตรมาส1/2565 คือ311.84 ล้านบาท,อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ -14.52%
คาดว่า กำไร 2Q66 จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ YoY แต่จะลดลง QoQ (ผลเรียกเก็บเงินสดดีขึ้น แต่อัตรากำไรขั้นต้นลดลง และอัตราภาษีที่แท้จริงสูงขึ้น) ขณะที่ปี 2566 คาดว่ากำไรจะเติบโตเล็กน้อย 2% โดยเกิดจากผลเรียกเก็บเงินสดที่เติบโต 5% อัตรากำไรขั้นต้นในระดับทรงตัว ต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น 15 bps และอัตราภาษีที่แท้จริงที่เพิ่มขึ้นจาก 15% ในปี 2565 สู่ 20%
8.บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (THANI) Market Cap 18,801.25 ล้านบาท, ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี66อยู่ที่ -20.19%, ขณะผลตอบแทนราคารอบ 1 สัปดาห์อยู่ที่ -4.05% ,ราคา ณ 16 มิ.ย.66 ปิด 3.32 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 4.76/3.26 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.12%, ค่า P/E10.76 เท่า ,งบไตรมาส1/2566 คือ 450.24 ล้านบาท ขณะที่งบไตรมาส1/2565 คือ 455.05 ล้านบาท, อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ -1.06%
ปี 2566 บริษัทวางเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อคงค้างโตไม่น้อยกว่า 10% จากปี 2565 ที่ทำได้ 52,101 ล้านบาท และมีเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ราว 30,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 27,648 ล้านบาท คาดว่าทั้งปี 2566 ความต้องการรถใหม่ป้ายแดงโดยเฉพาะในส่วนของรถบรรทุกจะเติบโตเพิ่มเติมอีกราว 5-7%
9.บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง หรือ (SAK) Market Cap 11,737.60 ล้านบาท, ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี66อยู่ที่ -8.20%,ขณะผลตอบแทนราคารอบ 1 สัปดาห์ อยู่ที่ -3.45% ,ราคา ณ 16 มิ.ย.66 ปิด 5.60 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 7.90/5.00 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 2.45%, ค่าP/E 16.25 เท่า ,งบไตรมาส1/2566 คือ 174.94 ล้านบาท ขณะที่งบไตรมาส1/2565 คือ 164.91 ล้านบาท,อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ 6.08%
บริษัท ขยายสาขาครบ 100 แห่งตามเป้า ช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น หนุนพอร์ตสินเชื่อรวม 11,127 ล้านบาท เติบโต 20% พร้อมประเมินไตรมาส 2 แนวโน้มความต้องการสินเชื่อในภาคการเกษตรเพิ่มต่อเนื่อง รับจังหวะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลเพาะปลูก มั่นใจทั้งปีพอร์ตสินเชื่อแตะ 13,500 ล้านบาท
10.บมจ.ฐิติกร (TK ) Market Cap 3,625.00 ล้านบาท,ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี66อยู่ที่ -13.69%,ขณะผลตอบแทนราคารอบ1สัปดาห์ อยู่ที่ -0.68% , ราคา ณ 16 มิ.ย.66 ปิด 7.25 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52สัปดาห์ คือ 11.40/6.95 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.79%, ค่า P/E 13.23 เท่า ,งบไตรมาส1/2566 คือ 42.10 ล้านบาท ขณะที่งบไตรมาส1/2565 คือ 135.13 ล้านบาท,อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ -68.85%
ผู้บริหาร TK ระบุปัจจุบัน TK ถือเงินสด 2,101.3 ล้านบาท โดยไม่ต้องใช้เงินกู้ หรือออกหุ้นกู้แต่อย่างใด ทำให้ประเด็นดอกเบี้ยขาขึ้นไม่มีผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจของเรา ทันทีที่ ธปท.ออกประกาศ พ.ร.ฎ.มีผลบังคับใช้อย่างชัดเจน เราพร้อมเดินหน้ารุกขยายตลาดเต็มที่
11.บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO) Market Cap 3,573.80 ล้านบาท, ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี66อยู่ที่ -9.63%, ขณะผลตอบแทนราคารอบ 1 สัปดาห์อยู่ที่ -1.29% ,ราคา ณ 16 มิ.ย.66 ปิด 7.65 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52 สัปดาห์ คือ 11.29/6.91 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 0.03%, ค่าP/E 30.19 เท่า ,งบไตรมาส1/2566 คือ 103.84 ล้านบาท ขณะที่งบไตรมาส1/2565 คือ 72.50 ล้านบาท,อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ 43.22%
CHAYO ผู้บริหารมองภาพรวมของอุตสาหกรรม AMC ขยายตัวดี หนุนจาก Supply หนี้เสียที่เพิ่มขึ้น หนุนให้คาดบริษัทจะมีพอร์ตหนี้เสียภายใต้การบริหารโตตามเป้าที่ 10,000-16,000 ลบ. เบื้องต้นคาด CHAYO จะมีกำไรสุทธิ Q2/66 จำนวน 85 ลบ. ลดลง QoQ จากดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น แต่โตเด่น 50.3%YoY สอดรับกับขนาดของพอร์ตหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น
12.บมจ.ไมโครลิสซิ่ง (MICRO) Market Cap 3,085.50 ล้านบาท,ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี66อยู่ที่ -23.26%,ขณะผลตอบแทนราคารอบ 1 สัปดาห์อยู่ที่-2.94% ,ราคา ณ 16 มิ.ย.66 ปิด 3.30 บาท,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52สัปดาห์ คือ 6.05/3.14 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 1.09%, ค่าP/E 101.25 เท่า ,งบไตรมาส1/2566 คือ 3.08 ล้านบาท ขณะที่งบไตรมาส 1/2565 คือ 51.74 ล้านบาท,อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ -94.05%
MICRO เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง (รถบรรทุกหกล้อ, รถบรรทุกสิบล้อ, รถจักรยานยนต์ และสินเชื่อประเภทอื่นที่มีรถบรรทุกมือสองเป็นหลักประกัน บริษัทฯได้ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนี้อยู่ที่ 2,800-3,000 ล้านบาท อัพพอร์ตภาพรวมเติบโตราว 5,500-5,800 ล้านบาท จากปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (12-16 มิ.ย.66) หุ้นกลุ่มลีสซิ่งได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทั้งปัญหาเงินเฟ้อ - ดอกเบี้ยขาขึ้น - หนี้ครัวเรือนที่สูงมาก และการเข้ามาคุมทั้งระบบเต็มตัวของแบงก์ชาติ ทำให้ผลตอบแทนราคาในรอบ 1 สัปดาห์ ติดลบทุกหลักทรัพย์