ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนประเมินกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาดการณ์ แต่ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,626.80 จุด เพิ่มขึ้น 218.38 จุด หรือ +1.13% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,230.45 เพิ่มขึ้น 1.46 จุด หรือ +0.05% และดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 33,493.69 จุด ลดลง 8.73 จุด หรือ -0.03%
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 10 ครั้งติดต่อกันนับตั้งแต่เฟดเริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค.2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.00%
อย่างไรก็ดี ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้ง สู่ระดับ 5.50-5.75% ภายในสิ้นปีนี้
รัฐบาลนิวซีแลนด์ระบุในวันนี้ (15 มิ.ย.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของนิวซีแลนด์ หดตัวลง 0.1% ในไตรมาส 1/2566 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ขณะที่ ธนาคารกลางนิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในธนาคารกลางที่ดำเนินวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเชิงรุกที่สุดในโลก
ทั้งนี้ GDP ไตรมาส 1/2566 ของนิวซีแลนด์หดตัวติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 หลังจากหดตัว 0.7% ในไตรมาส 4/2565 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับแก้แล้ว โดยกรณีดังกล่าวทำให้เศรษฐกิจของนิวซีแลนด์เข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค
ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) สำหรับสถาบันการเงินบางแห่ง 0.10% จาก 2.75% สู่ 2.65% หลังลดอัตราดอกเบี้ย MLF สำหรับเงินกู้ 4 แสนล้านหยวนครั้งสุดท้ายในเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว ทำให้ความเคลื่อนไหวในวันนี้เป็นการลดดอกเบี้ย MLF ครั้งแรกในรอบ 10 เดือน