ผู้ถือหุ้นกู้ "สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น" รวมพลยื่นหนังสือร้อง ก.ล.ต. วอนหาแนวทางช่วยเหลือและตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจน แจงผฺู้ถือหุ้นกู้ส่วนใหญ่วัยเกษียน ใช้เงินก้อนสุดท้ายเพื่อลงทุนในบริษัทที่มั่นคง หวัง STARK จะส่งงบตามนัดหมายที่ 16 มิถุนายนนี้
ผู้ถือหุ้นกู้ บมจ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น หรือ STARK นัดรวมพลผู้ถือหุ้นกู้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในประเด็นแนวทางที่ผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับเงินคืน การดำเนินการกับผู้สอบบัญชีที่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตรวจไม่พบความผิดปกติ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าใจผิดและเข้าไปซื้อหุ้นกู้
โดยตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ที่ได้รับความเสียหายกล่าวว่า การที่เข้ามายื่นคำร้องต่อ ก.ล.ต.ในครั้งนี้เพื่อให้ทางผู้มีอำนาจที่มีหน้าที่กำกับดูแลหลักทรัพย์ โดยมีคำขอ 2 ข้อคือ
1.ขอให้ STARK งดกระทำการในข้อกำหนดสิทธิระหว่างผู้ถือหุ้นกู้กับผู้ออกหุ้นกู้ที่จะทำให้ผู้ถือหุ้นกู้เสียเปรียบ
2.ให้สำนักงาน ก.ล.ต.เข้าไปตรวจสอบข้อกล่าวอ้างที่ว่า STARK ฉ้อฉลอย่างไร
ซึ่งคำร้องที่ยื่นขอไปนั่นเป็นหน้าที่ของ ก.ล.ต. โดยประชาชนไม่มีอำนาจในการเข้าไปตรวจสอบ จึงต้องให้ผู้มีอำนาจมากล่าวโทษแทน
ทั้งนี้ ความเสียหายที่เกิดขึ้น กลุ่มผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนวัยเกษียณที่ใช้เงินก้อนที่เก็บสะสมมาใช้ลงทุน และได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก และผู้ถือหุ้นทุกรายเชื่อว่า STARK เป็นบริษัทที่มั่นคง มีงบการเงินที่ดีมาโดยตลอด แต่กลับไม่ทำตามกฎเกณฑ์ อีกทั้งการระดมเงินกว่า 20,000 ล้านบาทนั้นเม็ดเงินเหล่านั้นสูญหายไปไหน
"ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ใช้เงินก้อนสุดท้ายเพื่อลงทุนในการดำรงชีวิตต่อ แต่พอเงินจำนวนนี้หายไป หลายคนเกิดภาวะเครียดตามมา จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือประชาชน เพราะคนธรรมดาสามัญลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แล้วไม่มีความปลอดภัย อยากให้พิจารณาความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะตัวเงิน แต่เป็นความเสียหายของภาพรวม และเชื่อว่าในวันที่ 16 มิถุนายน 2566 การนัดหมายส่งงบการเงินของ STARK จะไม่เกิดขึ้น จากการเลื่อนนัดส่งงบมาโดยตลอด ดังนั้น จึงคาดหวังให้ ก.ล.ต.ทำหน้าที่อย่างรวดเร็ว และตรงไปตรงมา
