xs
xsm
sm
md
lg

RT เผยทิศทางไตรมาส 2 แนวโน้มดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 2 แนวโน้มดี เร่งส่งมอบงานก่อสร้างสะท้อนราคาต้นทุนเดิม เข้ารับงานใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 1,134.4 ล้านบาท หนุน Backlog 10,913.87 ล้านบาท เพิ่มศักยภาพเข้ารับงานประเภทอุโมงค์ดินอ่อน เตรียมพัฒนาเทคโนโลยีเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดการใช้ทรัพยากรก่อสร้าง มองครึ่งปีหลังพลิกมีกำไร
  
นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิค เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/2566 คาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นจากการเร่งส่งมอบงานเดิมที่สะท้อนราคาต้นทุนเก่า ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การจัดการแรงงาน และการบริหารต้นทุนก่อสร้างเพื่อสร้างอัตรากำไรขั้นต้นให้ดีขึ้นต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทมุ่งเน้นการรับรู้รายได้เพิ่มเติมจากการเข้ารับงานใหม่ โดยในช่วงไตรมาส 2/2566 บริษัทเข้ารับงาน จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 1,134.4 ล้านบาท ได้แก่ งานก่อสร้างเขื่อนหัวงานและอาคารประกอบพร้อมส่วนประกอบอื่น โครงการอ่างเก็บน้ำคลองโพล้ จังหวัดระยอง มูลค่า 435.04 ล้านบาท งานก่อสร้างทำนบดินหัวงานและอาคารประกอบ โครงการอ่างเก็บน้ำคลองแอ่ง จังหวัดตราด มูลค่าสัญญา 678.85 ล้านบาท และโครงการ Slope Protection ทางหลวงหมายเลข 1322 ช่วงแม่จา-รินหลวง 2 จ.เชียงใหม่ มูลค่าสัญญา 20.55 ล้านบาท ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ปริมาณงานก่อสร้างในมือเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมียอดงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 10,913.87 ล้านบาท (ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2566) จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2566-2570

ด้านสัดส่วนงานก่อสร้างของบริษัทแบ่งเป็น งานประเภทก่อสร้างอุโมงค์ 49.80% งานสร้างเขื่อนและระบบชลประทาน 17.48% งานท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน 9.63% งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ 0.21% และงานก่อสร้างอื่นๆ เช่น งานก่อสร้างถนน และงาน Slope Protection 22.88%

“บริษัทยังคงมุ่งเน้นการขยายศักยภาพการเข้ารับงานก่อสร้างให้มีความหลากหลาย ด้วยความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่มีอยู่ เช่น งานท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน และงานอุโมงค์ดินอ่อนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล นอกจากนี้ บริษัทมุ่งมั่นในการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีและพัฒนาให้เข้ากับเครื่องมือที่มีอยู่ โดยนำมาใช้ควบคู่กับการดำเนินงาน เพื่อเป็นการลดการใช้ทรัพยากร พลังงาน และแรงงานก่อสร้าง แต่ยังคงก่อสร้างงานโครงการในมือให้เป็นไปตามแผน จากกลยุทธ์การดำเนินงานทั้งหมด บริษัทเชื่อว่าจะสามารถสร้างการเติบโตและพลิกกลับมามีกำไรในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป” นายชวลิต กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2566 บริษัทมีรายได้รวม 627.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่มีรายได้รวม 357 ล้านบาท จำนวน 270.34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 75.73% และมีขาดทุนสุทธิ 38.19 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 242 ล้านบาท จำนวน 203.81 ล้านบาท หรือลดลง 84.22% จากแผนการดำเนินงานที่มุ่งเน้นการเร่งส่งมอบงานเก่าที่สะท้อนราคาต้นทุนเดิม การบริหารต้นทุนก่อสร้างที่ดีขึ้น รวมถึงปัจจัยด้านราคาวัสดุก่อสร้างที่เริ่มคลี่คลาย


กำลังโหลดความคิดเห็น