หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -1.09 จุด โบรกฯ ชี้ตลาดกังวลการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่นักลงทุนยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด รวมถึงการโหวตตั้งนายกรัฐมนตรีของ ส.ว. ส่วนการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่ใกล้เส้นตาย 1 มิ.ย. ยังเป็นปัจจัยกระทบจากต่างประเทศที่ยังคงต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้มองแนวรับที่ 1,530 จุด และแนวต้านที่ 1,545 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 25 พ.ค.2566 ปรับตัวลดลง -1.09 จุด หรือ -0.07% โดยปิดตลาดที่ 1,535.42 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,513.80 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อหุ้นในวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวแคบสลับทั้งแดนบวกและลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,541.16 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,529.64 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 210 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 191 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 245 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,436.06 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +226.62 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +97.04 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -2,759.72 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 4,068.87 ล้านบาท ปิดที่ 94.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
2.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,065.71 ล้านบาท ปิดที่ 28.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,653.84 ล้านบาท ปิดที่ 62.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,259.35 ล้านบาท ปิดที่ 148.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
5.BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,246.37 ล้านบาท ปิดที่ 163.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 94.00บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท หรือ 6.82%
2.TQM ปิดที่ 28.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาท หรือ 3.67%
3.ADVANC ปิดที่ 212.00บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาท หรือ 0.47%
4.JMART ปิดที่ 20.70บาท เพิ่มขึ้น 0.70บาท หรือ 3.50%
5.CBG ปิดที่ 67.50บาท เพิ่มขึ้น 0.75บาท หรือ 1.12%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 330.00 บาท ลดลง 6.00 บาท หรือ 1.79%
2.SCGP ปิดที่ 39.50 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือ 5.39%
3.EGCO ปิดที่ 142.50 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.38%
4.KBANK ปิดที่ 134.50 บาท ลดลง1.50 บาท หรือ 1.10%
5.PTTEP ปิดที่ 148.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.00%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,067.17 จุด ลดลง -1.53 จุด หรือ -0.07% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 928.88 จุด ลดลง -0.34 จุด หรือ -0.04% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 484.95 จุด เพิ่มขึ้น 0.58 จุด หรือ 0.12%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ทรงตัว แกว่งตัวแคบๆ เพราะไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ตลาดยังคงรอการเมืองในประเทศ โดยติดตามการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเชื่อว่ายังใช้เวลาโดยการโหวตของวุฒิสภาเลือกนายกรัฐมนตรีจะอยู่ในเดือน ก.ค. ขณะเดียวกัน นักลงทุนรอการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่มีเส้นตายในวันที่ 1 มิ.ย.นี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงกังวลภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหลังเยอรมนีเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 1/66 หดตัวเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งลดลงติดต่อ 2 ไตรมาสเข้าภาวะถดถอยทางเทคนิค อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นได้กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประคองตลาดไว้ ซึ่งมีแรงเก็งกำไรตามหุ้นเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ที่อยู่ในตลาด NASDAQ ส่วนแนวโน้มตลาดวันพรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ โดยรอติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศ และการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ โดยประเมินกรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,530 จุด และแนวต้านที่ 1,545 จุด