การประกาศผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO จุดชนวนการเทขายหุ้นจนดิ่งลงติดฟลอร์ในทันทีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพราะนักลงทุนตื่นกลัวฐานะทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้
CHO แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนเปิดการซื้อขายหุ้นวันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ระบุถึงหุ้นกู้รุ่น “CHO212A” ซึ่งมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้คือ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ได้ครบกำหนดชำระเงินต้นและดอกเบี้ยงวดที่ 17 จำนวน 34,993,507.27 บาท ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2566
แต่บริษัทไม่สามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยได้ จึงถือเป็นเหตุผิดนัด อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีผลให้บริษัทต้องชำระหนี้ของหุ้นกู้ทั้งหมดที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระโดยพลัน (Call Default) ในทันที
หุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระหนี้ ออกเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 และครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 โดยมีผู้ถือหุ้นกู้จำนวน 408 ราย กำหนดดอกเบี้ย 7.75% ต่อปี และมียอดหุ้นกู้ที่รอการไถ่ถอนจำนวน 408.97 ล้านบาท
ราคาหุ้น CHO ร่วงลงหลังเปิดการซื้อขายในวันเดียวกัน และปิดตลาดที่ 22 สตางค์ ลดลง 10 สตางค์ หรือลดลดลง 31.25% และลงต่อเนื่องวันที่ 23 พฤษภาคม โดยปิดที่ 17 สตางค์ ลดลง 5 สตางค์ หรือลดลง 22.73%
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น CHO ดีดตัวขึ้นในการซื้อขายวันที่ 24 พฤษภาคม โดยปิดที่ 22 สตางค์ เมื่อบริษัทฯ ได้ชี้แจงการผิดชำระหนี้หุ้นกู้ โดยระบุว่า
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ได้จัดประชุมร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาและผลกระทบที่เกิด โดยมีการพิจารณาเงื่อนไขการปรับการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับสภาพคล่องของบริษัทฯ ในปัจจุบัน
รวมถึงการประชุมผู้ถือหุ้นกู้เพื่อให้ผู้ถือหุ้นกู้ลงมติพิจารณาขอผ่อนผันให้การผิดนัดชำระดอกเบี้ยไม่ถือเป็นเหตุผิด เพื่อบริษัทฯ สามารถดำเนินการตามแผนการชำระเงินใหม่ที่วางไว้ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับอนุมัติจากที่ผู้ถือหุ้นกู้ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นภายใน 30 วัน หลังจากวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 หรือภายในวันที่ 21 มิถุนายน 2566
บริษัทฯ ชี้แจงว่า ยังคงมีงานตามสัญญาจากคู่ค้า และโครงการที่ลงทุนไว้หลายรายการ การปรับปรุงการชำระหุ้นกู้จะทำให้สภาพคล่องของบริษัทดีขึ้น และเพิ่มความสามารถในการดำเนินธุรกิจในระยะยาว หากมีความ คืบหน้าจะแจ้งความรายงานความคืบหน้าให้ทราบ
CHO ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นรายแรกที่ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ โดยก่อนหน้า บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL ได้ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้เหมือนกัน ยังไม่นับบริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ซึ่งอาจมีปัญหาชำระหนี้หุ้นกู้จำนวนกว่า 9.1 พันล้านบาท
ปัญหาผิดนัดหนี้หุ้นกู้ของบริษัทจดทะเบียนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน และทำให้บริษัทจดทะเบียนขนาดเล็ก ผลประกอบการไม่โดดเด่น ฐานะการเงินไม่มั่นคง ไม่สามารถระดมทุนโดยการออกหุ้นกู้ได้ง่ายนัก
ขณะที่หุ้นมีแนวโน้มที่จะทรุดลง เช่นเดียวกับ CHO เพราะนักลงทุนกังวลฐานะทางการเงิน และพากันเทขายหุ้นทิ้ง
ก่อนหน้าเกิดปัญหาเบี้ยวหนี้หุ้นกู้ หุ้น CHO ราคาร่วงต่อเนื่อง จากเคยเป็นหุ้นเก็งกำไรยอดนิยม หลังจากเข้าตลาดหุ้นเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2556 และราคาหุ้นถูกลากขึ้นสูงสุดที่ 5 บาทเศษ ได้ปรับตัวลงหลายปีติดต่อ โดยในรอบ 12 เดือน เคยสูงสุดที่ 72 สตางค์
ผลประกอบการ CHO ย่ำแย่ติดต่อหลายปี 3 ปีก่อนหน้าขาดทุนปีละหลายร้อยล้านบาท รวมทั้งไตรมาสแรกปีนี้ขาดทุน 125 ล้านบาท
การประกาศผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ เป็นข่าวร้ายที่ปิดฉากหุ้น CHO เพราะฐานะทางการเงินที่ง่อนแง่นถูกเปิดโปงออกมา ทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุนซ้ำเติม
นักลงทุนรายย่อยที่ติดค้างอยู่ในหุ้น CHO มีจำนวนกว่า 1.5 หมื่นคน และแน่นอนแทบทุกคนต้องเจ็บปางตายจากหุ้นตัวนี้