จากประเด็นฉาวการทุจริตคอรัปชั่นในแวดวงการเมือง ผ่องถ่ายเงินระหว่างผู้บริหารระดับสูงในบริษัทยักษ์ใหญ่ เพื่อเอื้อผลประโยชน์ร่วมกัน ทำให้ทางฝ่ายนิติบัญญัติต้องเร่งยกเครื่องมาตรการกำราบปราบโกงครั้งใหญ่ โดยเตรียมร่างกฏหมายฉบับใหม่เพื่อป้องกันและปราบปรามข้าราชการที่หวังเลี่ยงภาษีและฟอกเงิน ผ่านการเล่นแร่แปรธาตุทรัพย์สินด้วยเงินคริปโต
เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้เพิ่งอนุมัติข้อเสนอเพื่อแก้ไขพระราชบัญญัติจริยธรรมการบริการสาธารณะของประเทศเพื่อรวมสินทรัพย์เสมือน รวมถึงสกุลเงินดิจิทัล เข้าไว้ในรายงานการถือครองทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัฐ
โดยปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องรายงานการถือครองสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น พันธบัตร เครื่องประดับ สิทธิพิเศษในการเป็นสมาชิกของชมรม สมาคม และการถือครองทรัพย์สินอื่นๆ ที่มีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านวอนเกาหลี หรือประมาณ 760 ดอลลาร์ ขณะที่ สินทรัพย์ดิจิทัลกลัยได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวภายใต้กฎหมายปัจจุบันของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นกฏหมายที่มีมาก่อนที่สินทรัพย์ดิจิทัลจะได้รับความนิยมอย่างที่มีในปัจจุบันนี้
ข้อเสนอดังกล่าวเกิดขึ้นจากกรณีอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับคิม นัมกุก อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปไตยเกาหลีใต้ คิม ถูกกล่าวหาว่าถอนเงินมากกว่า 4.5 ล้านดอลลาร์ในสกุลเงินดิจิตอลเมื่อปีที่แล้ว ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่จะจำกัดกิจกรรมดังกล่าว
ในการตอบสนองต่อข้อกล่าวหา คิม อ้างว่าเขาไม่จำเป็นต้องเปิดเผยกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลของเขา และเขาไม่เคยชำระบัญชีการถือครองของเขา ซึ่งมีรายงานว่ามีมูลค่าประมาณ 800,000 เหรียญ Wemix ($4.5 ล้าน) แต่เขาได้โอนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถือครองนั้น ไปยังศูนย์การแลกเปลี่ยนซื้อขายอื่น ทั้งนี้หลังจากนั้นไม่นาน คิมได้ยื่นใบลาออกจากพรรคประชาธิปไตยเกาหลีใต้ เพื่อหวังเป็นอิสระในการสอบสวน และหาทางแก้ต่างต่อคำสอบสวนที่จะตามมาก
จากกรณีดังกล่าว รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ตอบโต้การกระทำดังกล่าวของหน่วยงานราชการนั้น ด้วยการร่างแก้ไขกฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งจะทำให้สินทรัพย์ดิจิทัล เช่น cryptocurrency กลายเป็นกฎหมายที่กำหนดให้เปิดเผยการถือครองรวมไปจนถึงสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น NFT ที่มีมูลค่า
“เมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่าสมาชิกสมัชชาแห่งชาติที่ทำงานอยู่มีทรัพย์สินเสมือนจริงจำนวนมาก แต่ขาดหายไปจากรายละเอียดการเปิดเผยทรัพย์สินของผู้ร่างกฎหมาย ซึ่งชี้ว่าเป็นช่องโหว่ของกฎหมาย”
ทั้งนี้ การแก้ไขข้อเสนอปรับปรุงกฏหมายดังกล่าว ได้รับการเสนอและอนุมัติโดยคณะอนุกรรมการเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ตามเอกสารดังกล่าว จะมีการเสนอเพื่อลงมติในวาระสุดท้ายในวันที่ 25 พฤษภาคม
ขณะเดียวกันที่ฝ่ายนิติบัญญัติของเกาหลีใต้ มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆมากมายเกี่ยวกับกฎระเบียบของ cryptocurrencies และสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การล่มสลายของ Luna และ Terra blockchain ในเดือนพฤษภาคม 2565 ซึ่งรวมถึงแพ็คเกจการกำกับดูแล cryptocurrency ที่กว้างขวาง โดยร่างกฏหมายที่เสนอในเดือนเมษายน 2023 ซึ่งจะพยายามกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงขึ้นสำหรับอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องด้วยค่าปรับที่เพิ่มขึ้นและโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงตลอดชีวิต