หลังเลือกตั้งตลาดหุ้นไม่ตอบสนองอย่างที่ควรจะเป็น วันศุกร์ที่ 12 พ.ค.2566 (ก่อนวันเลือกตั้ง) SET ปิดตลาดที่ 1,561.35จุ ด ขณะที่วันศุกร์ที่ 19 พ.ค.2566 (5 วันทำการหลังวันเลือกตั้ง) SET ปิดตลาดที่ 1,514.89 จุด ลดลงไป 46.46 จุด หรือ -2.97% ฉะนั้นไปสำรวจหุ้นเกรด A หรือ SET100 ว่า 10 อันดับหลักทรัพย์ใดราคาปรับลงแรงที่สุด
1.บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ผลตอบแทนราคาหลังเลือกตั้ง 5 วันคือ -17.04% (12พ.ค.66 ปิด13.50 บาท ณ 19 พ.ค.66 ปิด 11.20 บาท ลดลง 2.30 บาท), ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 53.50 / 10.00 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.10%, ค่า P/E N/A เท่า ,Market Cap 9,284.71 ล้านบาท
SINGER ประกาศงบไตรมาส 1 ปี 66 ขาดทุน 843 ล้านบาท ลดลง 492% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 885 ล้านบาท ปรับลดลง 26.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากการลดลงของรายได้จากการขายโดยรายได้จากการขาย อยู่ที่ 203 ล้านบาท ลดลง 70.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
2.บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ผลตอบแทนราคาหลังเลือกตั้ง 5 วันคือ -16.99% (12 พ.ค.66 ปิด 7.65 บาท ณ 19 พ.ค.66 ปิด 6.35 บาท ลดลง 1.30 บาท),ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 9.00 / 6.30บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน N/A %, ค่าP/EN/A เท่า ,Market Cap 219,405.84 ล้านบาท
บล.กสิกรไทยระบุว่า ราคาหุ้น TRUE ตามความกังวลของตลาดต่อนโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะยกเลิกการผูกขาดอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ขณะที่ TRUE แจ้งงบไตรมาส 1 ปี 66 หลังจากควบรวมกิจการ 2 บริษัท มีผลขาดทุน 492 ล้านบาท เป็นผลจากการแข่งขันสูง ทำให้รายได้ธุรกิจมือถือ และธุรกิจออนไลน์หดตัว
3.บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ผลตอบแทนราคาหลังเลือกตั้ง 5 วันคือ -15.11% (12 พ.ค.66 ปิด 13.90 บาท ณ 19 พ.ค.66 ปิด 11.80 บาท ลดลง 2.10 บาท),ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 16.40 / 11.70 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 3.28 %, ค่าP/E 19.37 เท่า ,Market Cap 19,706.00 ล้านบาท
PTG ไตรมาส 1 ปี 2566 มีกำไรสุทธิ 284 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 50,936 ล้านบาท เติบโต 30.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากธุรกิจน้ำมันที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 28.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 47,790 ล้านบาท และราคาขายปลีกหน้าสถานีบริการเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
4.บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) ผลตอบแทนราคาหลังเลือกตั้ง 5 วัน คือ -13.64% (12พ.ค.66 ปิด 60.50 บาท ณ 19 พ.ค.66 ปิด 52.25 บาท ลดลง 8.25 บาท),ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52สัปดาห์ คือ 61.00 / 38.00 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 3.43 %, ค่าP/E 15.53 เท่า ,Market Cap 71,747.21 ล้านบาท
ไตรมาส 1/2566 กำไรเด่น 1,321 ล้านบาท รายได้โตไม่หยุด 3,960 ล้านบาท ดันพอร์ตสินเชื่อคงค้างแตะระดับ 68,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทได้ออกหุ้นกู้มีประกันเพื่อนำเงินมาใช้ในการขยายการเติบโตรอบใหม่ โดยได้รับกระแสตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี
5.บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ผลตอบแทนราคาหลังเลือกตั้ง 5 วัน คือ -13.61% (12พ.ค.66 ปิด 3.82 บาท ณ 19 พ.ค.66 ปิด 3.30 บาท ลดลง 0.52 บาท),ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 6.20 / 3.26 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 3.61%, ค่า P/E 9.95 เท่า , Market Cap 29,312.35 ล้านบาท
ไตรมาส 1/2566 กำไรสุทธิ 455.80 ล้านบาท ขณะไตรมาส 1/2565 กำไรสุทธิ 503.35 ล้านบาท อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ -9.45%
6.บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) ผลตอบแทนราคาหลังเลือกตั้ง 5 วันคือ -13.56% (12 พ.ค.66 ปิด 11.80 บาท ณ 19 พ.ค.66 ปิด 10.20บาท ลดลง 1.60 บาท), ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 21.80 / 10.20บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 16.67%, ค่าP/E 4.50 เท่า ,Market Cap 15,904.78 ล้านบาท
ไตรมาส 1/66 มีกำไร 78.96 ล้านบาท ลดลง 93.92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 1,293.92 ล้านบาท โดยรายได้จากการเดินเรือสุทธิ สำหรับไตรมาสแรกปีนี้ต่ำกว่ารายได้จากการเดินเรือสุทธิคิดเป็น 51% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยสาเหตุเนื่องมาจากรายได้เฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือลดลงจาก 21,995 เหรียญสหรัฐในไตรมาส 1/65 เป็น 10,022 เหรียญสหรัฐในไตรมาส 1/66
7.บมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) ผลตอบแทนราคาหลังเลือกตั้ง 5 วันคือ -12.34% (12 พ.ค.66 ปิด 77.00 บาท ณ 19 พ.ค.66 ปิด 67.50 บาท ลดลง 9.50 บาท), ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 116.00 / 67.25 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 2.23%, ค่าP/E 35.59 เท่า ,Market Cap 67,500.00 ล้านบาท
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า คาดแนวโน้ม Q2/66 ยอดขายในประเทศจะเริ่มเป็นบวก จาก 1.เป็นช่วงฤดูกาลร้อนที่เครื่องดื่มมักขายดี 2.ได้ประโยชน์อย่างเต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก จากราคาสินค้า หลักที่ยังต่ำกว่าคู่แข่งและ 3) แผนการตลาดภายใต้แคมเปญ “แจกมอเตอร์ไซด์ทุกวัน แจกล้านทุกเดือน”
8.บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ผลตอบแทนราคาหลังเลือกตั้ง 5 วันคือ -11.18%(12 พ.ค.66 ปิด 40.25 บาท ณ 19 พ.ค.66 ปิด 35.75 บาท ลดลง 4.50 บาท),ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52 สัปดาห์ คือ 52.50 / 35.25 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 2.74 %, ค่าP/E N/A เท่า ,Market Cap 161,191.36 ล้านบาท
งบไตรมาส 1 ปี 2566 ออกมากำไร 82 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 96.82% ที่มีกำไร 2,596 ล้านบาท ผลกระทบใหญ่มาจากธุรกิจปิโตรเคมี แม้ธุรกิจโรงกลั่นจะฟื้นตัวแต่ราคาน้ำมันที่ยังทรงตัว 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เลยทำให้มีผลกระทบลากยาวไตรมาส 2
9.บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ผลตอบแทนราคาหลังเลือกตั้ง 5 วันคือ -10.45% (12พ.ค.66 ปิด 55.00 บาท ณ 19 พ.ค.66 ปิด 49.25บาท ลดลง 5.75 บาท),ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 58.25 / 38.75 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน N/A%, ค่าP/E 62.72 เท่า ,Market Cap 66,487.50 ล้านบาท
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/66 จะลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าจากการช่วง Low season ของไทยและมัลดีฟส์ ทั้งนี้ จากการอัพเดทตัวเลข RevPar ในเดือน เม.ย. 66 ลดลง 6% จากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่คาดว่าเดือน พ.ค.-มิ.ย. 66 จะเห็นการอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าต่อเนื่อง
10.บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ผลตอบแทนราคาหลังเลือกตั้ง 5 วันคือ -9.96%(12 พ.ค.66 ปิด 23.10 บาท ณ 19 พ.ค.66 ปิด 20.80บาท ลดลง 2.30 บาท),ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52สัปดาห์ คือ28.00 / 19.60 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 2.26%, ค่าP/E27.91เท่า ,Market Cap 249,600.00 ล้านบาท
โบรคฯยังมองแนวโน้มธุรกิจยังเป็นไปตามที่คาด ว่าบริษัทจะยังคงได้ประโยชน์จากอัตรากำไรขั้นต้นต่อลิตร ที่อยู่ในระดับที่สูงต่อไปในไตรมาส 2/66 อีกทั้งบริษัทน่าจะเห็นปริมาณยอดขายผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (jet fuel) ที่เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน ตลอดทั้งปี 66
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามการตั้งรัฐบาลว่าจะราบรื่นหรือไม่ เพราะตลาดหุ้นนั้นปัจจัยเรื่องความชัดเจนจะเป็นบ่อเกิดสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนนั้นเอง