กลุ่มดุสิตธานี เผยผลงานไตรมาสแรกมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,717 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 588 ล้านบาท หรือ 52.1% จาก 1,129 ล้านบาท โดยธุรกิจโรงแรมบันทึกรายได้รายไตรมาสสูงที่สุดในรอบ 3 ปี จากสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจอาหารเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรจากการประกอบธุรกิจหลัก 11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2565 ซึ่งขาดทุน 126 ล้านบาท
บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT แจ้งว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 8.63 ล้านบาท โดยเป็นกำไรจากการประกอบธุรกิจหลัก 11 ล้านบาท เติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับที่เคยขาดทุน 126 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2565 ที่ขาดทุน 107 ล้านบาท (QoQ) ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจโรงแรม ทั้งจากการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และผลสำเร็จในการปรับเพิ่มอัตราค่าห้องเฉลี่ย ทำให้บริษัทฯ มีรายได้ต่อห้องรายไตรมาสสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากการธุรกิจโรงแรมรายไตรมาสสูงสุดในรอบ 3 ปี โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ รายได้จากธุรกิจโรงแรมของกลุ่มดุสิตธานีเพิ่มขึ้นจาก 634 ล้านบาทในปีก่อน เป็น 1,192 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 88.0%
ขณะที่ธุรกิจอาหารเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งจากธุรกิจการให้บริการจัดการอาหารให้โรงเรียนนานาชาติ และธุรกิจผลิตเบเกอรีและแฟรนไชส์ร้านขนมอบ ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่บริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในช่วงกลางปี 2565 ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ด้านการขยายการเติบโตและการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้นจาก 142 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2565 เพิ่มเป็น 307 ล้านบาทในปีนี้ คิดเป็นเพิ่มขึ้น 165 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 116.2% และทำให้ในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จากการประกอบธุรกิจหลัก 356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 44.4% จากไตรมาสก่อนหน้า
“กลุ่มดุสิตธานียังมั่นใจว่าแนวโน้มการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวและมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้รายได้จากธุรกิจโรงแรมยังคงเติบโตได้ต่อไป เช่นเดียวกับธุรกิจอาหารที่ยังเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ และเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของบริษัทฯ ได้ในอนาคต”