บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) TCAP เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2566 มีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมจำนวน 1,787 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนของบริษัทฯ จำนวน 1,579 ล้านบาท เป็นผลมาจากความสำเร็จตามแผนกลยุทธ์การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัทร่วมและบริษัทย่อยที่ทุกบริษัทมีผลการดำเนินงานเติบโตเป็นที่น่าพอใจ และการขยายสินเชื่อผ่านธนชาตพลัส
นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TCAP เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1 ปี 2566 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวม จำนวน 1,787 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ จำนวน 1,579 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.40 จากไตรมาสก่อน (Q-Q) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 52.41 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (Y-Y) โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เป็นผลมาจากความสำเร็จตามแผนกลยุทธ์ของ TCAP ที่ได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัทร่วมและบริษัทย่อยในปี 2565 ที่ผ่านมา และบริษัทร่วมและบริษัทย่อยต่างมีผลการดำเนินงานเติบโตเป็นที่น่าพอใจ ทำให้ TCAP ได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น รวมถึงให้เงินกู้ยืมแก่ธนชาตพลัส เพื่อปล่อยสินเชื่อที่มีหลักประกัน ซึ่งมีการขยายตัวต่อเนื่อง
สำหรับในปี 2566 การเติบโตจะมาจาก 2 ส่วนด้วยกันคือ จากการเติบโตของบริษัทย่อยและบริษัทร่วม ที่คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นหลังจากผ่านพ้นวิกฤตโควิด และจากเงินลงทุนที่ใช้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม รวมทั้งเงินให้กู้ยืมเพิ่มเติมแก่ธนชาตพลัส ซึ่งในปี 2565 TCAP ได้มีการลงทุนและให้สินเชื่อเพิ่มเติมเป็นจำนวนกว่า 8,200 ล้านบาท ดังนั้น ฝ่ายจัดการจึงคาดว่าปีนี้บริษัทจะมีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาได้ตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้
ทั้งนี้ จากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่มั่นคงและเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติให้เสนอผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2565 ในอัตรา 3.10 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่จ่าย 3.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้จ่ายไปเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา