xs
xsm
sm
md
lg

TSE เดินหน้า COD โรงไฟฟ้าญี่ปุ่น 133 MW จ่อบุ๊กรายได้-กำไรไตรมาส 2 ทันที

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





"ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่" เสียบปลั๊กขายไฟโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Onikoube ในญี่ปุ่น จำนวน 133 เมกะวัตต์ ฟากซีอีโอระบุเริ่มรับรู้รายได้ทันทีตั้งแต่ไตรมาส 2/66 ดันผลงานสดใส พร้อมเดินหน้าเข้าประมูลโรงไฟฟ้า กกพ.เพิ่ม ตั้งเป้าชนะอีกไม่ต่ำกว่า 150 เมกะวัตต์

ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)(TSE) เปิดเผยว่า วันนี้ (10 พ.ค.) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Onikoube ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จังหวัด Miyagi ในญี่ปุ่น กำลังการผลิตติดตั้ง 147 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญารับซื้อไฟฟ้าที่ 133 เมกะวัตต์ ด้วยอัตราค่าไฟฟ้า FiT ที่ 36 เยนต่อหน่วย ได้เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) เรียบร้อยแล้ว ทำให้บริษัทสามารถเริ่มรับรู้รายได้และกำไรได้ทันทีในไตรมาส 2/66 ซึ่งผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมกันนี้ประเมินว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ TSE เพิ่งจะลงนามในหนังสือบันทึกข้อตกลงรับทราบและยอมรับเงื่อนไขการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed - in Tarif (FT) โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ปี 2565-2573 จำนวน 7 โครงการ กำลังผลิตรวมกว่า 88.66 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการขนาด SPP จำนวน 2 โครงการ โครงการ VSPP จำนวน 4 โครงการ และโครงการโซลาร์+แบตเตอรี่ จำนวน 1 โครงการ

บริษัทยังเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รอบ 2 ของ กกพ.ซึ่งมีโควตารับซื้อออกมา 3,600 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะได้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 150 เมกะวัตต์

ปัจจุบัน TSE มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลในประเทศไทย รวมทั้งหมด 35 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 286.2 เมกะวัตต์ เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว (COD) แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าในประเทศ ขนาดกำลังการผลิตรวม 153.2 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตรวม 133 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการพลังงานต่อเนื่อง เช่น โครงการ Waste to Energy การเปลี่ยนขยะให้เป็นพลังงาน และสร้างกลไกการเข้าถึงคาร์บอนเครดิต เพื่อต่อยอดในการสร้างรายได้ในอนาคต อีกทั้งเริ่มศึกษาธุรกิจเพื่อความยั่งยืนด้านการดูแลรักษาสุขภาพและความงามอย่างครบวงจร โดยการสร้างเครือข่ายทางการแพทย์ เริ่มตั้งแต่การให้กำเนิดบุตร การป้องกัน การดูแลรักษา และการฟื้นฟู ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายอย่างบูรณาการในเร็วๆ นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น