STARK บทเรียนเจ็บแสบแบงก์-กองทุน (จบ) / สุนันท์ ศรีจันทรา

งบการเงินประจำปี 2565 ของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK จะเป็นสิ่งบ่งชี้สำคัญเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ซึ่งอาจถูกซุกไว้ใต้พรม โดยที่ไม่มีใครรู้ระแคะระคายมาก่อน

หลายปีที่ผ่านมา งบการเงิน STARK นอกจากไม่แสดงปัญหาใดๆ แล้ว ตัวเลขผลประกอบการทุกด้านยังออกมาดี และผู้สอบบัญชีไม่ได้แสดงความเห็นในเชิงลบใดๆ

แต่งบปี 2565 กลับมีปัญหาใหญ่ คลอดออกมาไม่ได้ ต้องเลื่อนนำส่งตลาดหลักทรัพย์ครั้งแล้วครั้งเล่า และไม่แน่ใจได้ว่าภายในเดือนมิถุนายนนี้จะประกาศให้สาธารณชนรับรู้ได้หรือไม่

ทุกฝ่ายกำลังตั้งปม STARK มีปัญหาทุจริตภายใน มีปัญหาสต๊อกลม การแต่งบัญชี หรือความไม่ชอบมาพากลใดๆ หรือไม่ และหากมีการทุจริตภายใน ใครมีส่วนที่จะต้องร่วมรับผิดชอบบ้าง

ไล่กันมาตั้งแต่ผู้บริหารและกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินบริษัทที่ลาออกไปแล้ว ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือแม้แต่บริษัทจัดอันดับเครดิต ซึ่งเป็นผู้จัดเครดิตเรตติ้งในการออกหุ้นกู้เสนอขายประชาชน

ถ้าจะมีการทุจริต ไซฟ่อนผ่องถ่ายเงินใน STARK คงลงมือเพียงคนเดียวไม่ได้ แต่ต้องร่วมมือกันเป็นขบวนการ เพียงแต่หัวโจกเป็นใครเท่านั้น

นักลงทุนทำใจกันแล้วสำหรับหายนะจากการถือหุ้น STARK เพราะเปิดการซื้อขายใหม่เมื่อไหร่หุ้นคงถูกถล่มขายจนราคาติดฟลอร์ หรือรูดลงต่ำสุดติดพื้น 30% เพียงแต่จะลงกี่ฟลอร์เท่านั้น

จะลง 4 ฟลอร์ติดเหมือนหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE หลังปฏิบัติการอำพรางคำสั่งซื้อขายหุ้นเพื่อปล้นเงินโบรกเกอร์หรือไม่

และจากจุดปิดล่าสุด 2.38 บาท ก่อนถูกแขวน SP ยาวตั้งแต่วันที 1 มีนาคมที่ผ่านมา STARK ราคาจะดิ่งลงลึกขนาดไหน

STARK เป็นอีกบทเรียนสำคัญของตลาดหุ้น ซึ่งทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องนำไปเป็นกรณีศึกษาเพื่อป้องกันหายนะที่จะเกิดขึ้นซ้ำรอยในอนาคต

บริษัทจดทะเบียนที่สร้างภาพมาอย่างดีจนทุกฝ่ายตายใจ นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศหอบเงินเข้าไปลงทุน จนนักลงทุนรายย่อยเกิดความมั่นใจตามแห่เข้าไปซื้อหุ้นนับหมื่นราย แต่ถึงวันหนึ่งกลายร่างเป็นบริษัทจดทะเบียนที่อาจเต็มไปด้วยความฉ้อฉล และเต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูลที่ถูกซุกไว้ใต้พรม

ธนาคารพาณิชย์ที่ปล่อยสินเชื่อ โบรกเกอร์ที่ปล่อยมาร์จิ้นหรือสินเชื่อเพื่อซื้อหุ้น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมที่ขนเงินนับพันล้านบาทเข้าไปลงทุน

นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งนักลงทุนรายย่อยวันนี้กำลังจะหายนะจาก STARK

ไม่มีใครรู้ระแคะระคายปฏิบัติการมหาโหดของ STARK มาก่อน รู้ตัวก็สายเกินไป เพราะเสียหายย่อยยับแล้ว

ผู้จัดการกองทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำไมพลาดท่าเสียทีให้ STARK กันหมด ก่อนตัดสินใจลงทุนได้พิจารณาความเสี่ยงอย่างรอบคอบหรือไม่ หรือผู้บริหาร STARK กล่อมผู้จัดการกองทุนจนเชื่อใจสนิท

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะต้องนำบทเรียนของ STARK เพื่อพิจารณายกระดับมาตรฐานการกำกับและตรวจสอบบริษัทจดทะเบียนให้มีความเข้มข้นมากขึ้น

เพราะบริษัทจดทะเบียนที่สร้างภาพดูเหมือนดี แต่สุดท้ายแปลงร่างเป็นหุ้นตัวร้าย กินเรียบทั้งนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ แบงก์และกองทุน ไม่ได้มีเฉพาะ STARK เท่านั้น

แต่อาจมีบริษัทจดทะเบียนอีกนับสิบแห่ง ซึ่งสร้างภาพลวงตาจนดูเหมือนฐานะการเงินมั่นคง แต่ข้อเท็จจริงอาจเป็นกิจการกลวงโบ๋ และพร้อมล่มสลายได้ตลอดเวลา

ตลาดหุ้นเป็นแหล่งที่สามารถตักตวงความมั่นคั่งได้ภายในเวลาชั่วพริบตา โดยเฉพาะผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่ไม่เกรงกลัวบาป ไม่ละอายต่อภาพลักษณ์ และชื่อเสียงทางสังคม ไม่กลัวกฎหมาย

ปฏิบัติการปล้นเพียงครั้งเดียวสามารถโกยเงินเป็นพันเป็นหมื่นล้านบาท ทำไมผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนจึงไม่กล้าเสี่ยง

งบการเงินปี 2565 ของ STARK ที่ทุกฝ่ายเฝ้ารอคอยถ้าเกิดปัญหาใส้ในเน่า บริษัทจดทะเบียนแห่งนี้คงรอวันล่มสลายบนความเสียหายหลายหมื่นล้านบาท โดยประชาชนผู้ลงทุนทั้งหุ้นกู้ หุ้นสามัญ และประชาชนผู้ลทุนผ่านกองทุนรวมจำนวนหลายหมื่นคนจะต้องหมดเนื้อหมดตัว

แต่จะมีผู้บริหาร หรือกรรมการ STARK คนใดต้องชดใช้เวรกรรมที่ก่อไว้กับประชาชนผู้ลงทุนหรือไม่