บมจ.วินโดว์ เอเชีย ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนรวมไม่เกิน 244,200,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 27.5% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดหลัง IPO มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
วัตถุประสงค์การใช้เงินจากการระดมทุน เพื่อลงทุนก่อสร้างอาคารโรงงานใหม่ และจัดซื้อ เครื่องจักร และเครื่องมือเพื่อขยายกำลังการผลิต ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพเพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ
วินโดว์ เอเชีย ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายประตูและหน้าต่าง โดยบริษัทนำทั้งเส้นอะลูมิเนียม (Aluminium) และเส้นยูพีวีซี (Unplasticized Polyvinyl Chloride : UPVC) มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิต ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีทั้งส่วนที่ผลิตขึ้นและจัดจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเอง และส่วนที่บริษัทรับจ้างผลิตและจัดจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า (Original Equipment Manufacturer : OEM)
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ตราสินค้าของบริษัทฯ นั้นประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าวินโดว์ เอเชีย (Window Asia) วินด์เฟม (Wind Fame) เฟรมเม็กซ์ (FRAMEX) และเอ็นโซ (Enzo) ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่จะจัดจำหน่ายให้แก่ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ (Modern trade) ที่มีสาขาครอบคลุมพื้นที่เกือบทุกจังหวัด และร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิม (Traditional trade) ในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่และร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิมในทุกภูมิภาคของประเทศที่มีผลิตภัณฑ์ของบริษัทวางจำหน่ายมีจำนวนรวมกันกว่า 624 แห่ง
นอกจากนั้น ผลิตภัณฑ์ของบริษัทยังมีวางจำหน่ายผ่านร้านค้าวินโดว์ เอเชีย (Window Asia Shop) ซึ่งเป็นหน้าร้านของบริษัท หรือช่องทางออนไลน์ (Online) บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย เช่น หน้าเว็ยไซต์ (Website) เฟซบุ๊ก (Facebook) บัญชีไลน์ ออฟฟิเชียล (Line Official Account) ลาซาด้า (Lazada) ช็อปปี้ (Shopee) และน็อคน็อค (NocNoc) เป็นต้น
ในส่วนของผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของลูกค้าที่เกิดจากการรับจ้างผลิตนั้นเป็นลักษณะที่ลูกค้าที่ไม่มีสายงานผลิตสินค้าประเภทดังกล่าวเป็นของตนเองได้ว่าจ้างให้บริษัทผลิตสินค้าให้ภายใต้ตราสินค้าของลูกค้าเอง เพื่อนำไปจัดจำหน่ายต่อ ปัจจุบันลูกค้าทั้งหมดที่บริษัทดำเนินการรับจ้างผลิตให้เป็นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ที่ต้องการมีผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างที่ใช้ตราสินค้าของตนเองมาวางจำหน่ายในร้านค้านั้นๆ
โครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 ครอบครัวรัตนศิริวิไล ถือหุ้น 98.68% ภายหลัง IPO จะลดสัดส่วนลงเหลือ 71.54%
สำหรับผลประกอบการงวดปี 63-65 บริษัทมีรายได้รวม 747.50 ล้านบาท 835.51 ล้านบาท และ 913.35 ล้านบาท ตามลำดับ ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขั้นต้น 220.33 ล้านบาท 247.37 ล้านบาท และ 239.67 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 73.10 ล้านบาท 99.28 ล้านบาท และ 74.52 ล้านบาท ตามลำดับ
ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 1,061.49 ล้านบาท มาจากการซื้อที่ดินเข้ามาสำหรับใช้เป็นพื้นที่โรงงานเดิมและก่อสร้างโรงงานใหม่ และการเพิ่มขึ้นของวัตถุดิบคงคลังที่ใช้ในการผลิต ในส่วนของหนี้สินรวม 564.07 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 497.42 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท