โปรเจกต์ใหญ่ของ Crypto กว่า 21 เหรียญ มูลค่ารวม 790 ล้านดอลลาร์ ซึ่งกำลังจะเตรียมปลดล็อก Token ในเดือนพฤษภาคมนี้ โดย Optimism จะปล่อยโทเค็นมูลค่าสูงสุดในวันที่ 31 พฤษภาคม ด้วยมูลค่ากว่า 329 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย Avalanche อันดับสองและปิดท้ายด้วย BitDao เป็นอันดับที่สาม อาจฉุดให้ราคาซื้อขายเหรียญในกระดานร่วงลงทั้งแถบ
จากการเปิดเผยของ cryptoslate อ้างอิงตามข้อมูลที่รายงานโดย Token Unlocks ระบุว่า มีกำหนดการปลดล็อคโทเค็น 21 รายการในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะปล่อยโทเค็นมูลค่ากว่า 794 ล้านดอลลาร์สู่การหมุนเวียนโดยรวม
โดย Optimism (OP) จะโฮสต์การปลดล็อกที่ใหญ่ที่สุดมูลค่า 329 ล้านดอลลาร์ ตามหมายเลข Token Unlocks Avalanche (AVAX) และ BitDAO (BIT) ตามมาด้วยการปลดล็อคครั้งใหญ่เป็นอันดับสองและสามด้วยเงิน 162 ล้านดอลลาร์และ 92 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ
3 อันดับแรกของมูลค่า
ทั้งนี้ในวันสุดท้ายของเดือน OP จะปล่อยโทเค็น 154,618,822.65 ซึ่งประกอบด้วย 3.6% ของการจัดหา OP ทั้งหมด จำนวนเงินเท่ากับ 330,884,280 ดอลล่าร์สหรัฐ (อัตราแลกเปลี่ยนในขณะที่เขียนรายงานนี้) ซึ่งคิดเป็นประมาณ 41% ของมูลค่าทั้งหมดที่มีกำหนดจะปลดล็อค
ขณะที่ 3 วันก่อนการปลดล็อก OP ในวันที่ 28 พฤษภาคม AVAX จะปลดล็อก 1.325% ของอุปทานทั้งหมด ซึ่งเท่ากับ 9,541,800 โทเค็น ด้วยราคาซื้อขาย AVAX ในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าโครงการจะเพิ่มโทเค็นมูลค่า 163,164,780 ดอลล่าร์สหรัฐเข้าสู่การหมุนเวียน
อย่างไรก็ดี การปลดล็อกครั้งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเดือนจะจัดขึ้นโดย BIT ในวันที่ 15 พฤษภาคม โครงการจะปล่อยเกือบ 2% ของอุปทานทั้งหมด ซึ่งโทเค็นทั้งหมด 187,499,999.36 จะถูกปลดล็อค ซึ่งเท่ากับ 92,828,062 ดอลล่าร์สหรัฐ ในขณะที่เขียน
การปลดล็อคอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด
ทั้งนี้การปลดล็อกในรอบครั้งแรกของเดือนจะมาจากเหรียญ 1INCH ในวันที่ 1 พฤษภาคม และโครงการจะปล่อยโทเค็นมูลค่าเกือบ 10,000 ดอลลาร์เข้าสู่การหมุนเวียน NYM (NYM) และ JOE (JOE) จะปลดล็อกในวันเดียวกันคือวันที่ 3 พฤษภาคม ขณะที่ NYM จะปล่อยโทเค็นมากกว่า 73 ล้านโทเค็น ซึ่งเท่ากับมากกว่า 16 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ JOE จะปลดล็อกมากกว่า 108 ล้านต่อวัน มูลค่าเกือบ 50 ล้านดอลลาร์
ต่อมาวันที่ 5 พฤษภาคม จะเห็นการปลดล็อคสองครั้งจาก Liquity (LQTY) และ Galxe (GAL) มูลค่ากว่า 1.1 ล้านดอลลาร์และ 13.2 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ ในวันที่ 7 พฤษภาคม Tornado Cash (TORN) จะปลดล็อก 1.75% ของอุปทานทั้งหมด ซึ่งเท่ากับ 175,000 โทเค็นที่มีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
ขณะที่ GMX (GMX) และ dYdX (DYDX) กำหนดการปลดล็อกในวันที่ 9 พฤษภาคม ช่วงเวลาปลดล็อกของ GMX จะปล่อยโทเค็นมูลค่ากว่า 28,000 ดอลลาร์ต่อวัน ในขณะที่ DYDX จะปลดล็อกโทเค็นมากกว่า 6 ล้านโทเค็นที่ปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 16 ล้านดอลลาร์
หลังจากนี้ออยเลอร์ (EUL), MoonBeam (GLMR), Aptos (APT) และ Sweat Economy (SWEAT) จะปลดล็อคในวันที่ 10, 11, 12 และ 13 พฤษภาคมตามลำดับ โดย EUL จะปลดล็อกมากกว่า $300,000 ในขณะที่ GLMR จะปล่อยโทเค็นมูลค่ามากกว่า $70,000 ทุกวันจนกว่าจะรวมกันมากกว่า 4 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ตามมาด้วย APT และ SWEAT จะปล่อยโทเค็นมูลค่ากว่า 46 ล้านดอลลาร์และ 1 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ
ในวันที่ 17 และ 18 พฤษภาคม ApeCoin (APE) และ Oasis Network (ROSE) คาดว่าจะปลดล็อกโทเค็นมูลค่ากว่า 60 ล้านดอลลาร์และ 12 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ Immutable X (IMX) จะปล่อยโทเค็นมากกว่า 18 ล้านรายการในวันที่ 20 พฤษภาคม ซึ่งเท่ากับกว่า 17 ล้านดอลลาร์ในขณะที่เขียน
ปิดท้ายด้วย Acala (ACA) จะปล่อยโทเค็นมูลค่า $405,783 อีก $405,783 ในวันที่ 25 พฤษภาคม ขณะที่ Ronin (RON) และ Yield Guild Games (YGG) จะปลดล็อคโทเค็นมูลค่า $14 ล้านและ $3 ล้านในวันที่ 27 พฤษภาคมตามลำดับ
อย่างไรก็ตามจากไทม์ไลน์การปลดล็อกเหรียญนี้ สอดคล้องกับมุมมองการวิเคราะห์ของกูรูดังด้านคริปโต คือ อาจารย์ปรีดา เจริญวัฒนา ขวัญใจชุมชนนักเทรด Bitcoin Thai Club ซึ่งล่าสุดอาจารย์ปรีดาก็ได้ออกมาโพสต์วิเคราะห์ราคา Bitcoin เป็นครั้งแรก เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (หลังจากที่ได้เข้าๆออกๆกลุ่ม Bitcoin Thai Club) เนื่องจากได้ทำนายราคาบิทคอยน์พลาดสวนทางกับตลาดไปก่อนหน้านี้ โดยในโพสต์ อาจารย์ปรีดา ระบุว่า
“BTC ยังไม่ผ่านจุดต่ำ ทางเทคนิคอลลากไปยัง 800 – 1,883 USD ได้” โพสต์อาจารย์ปรีดากล่าวซึ่งจะเห็นได้ว่ามุมมองของ อาจารย์ปรีดา จากในโพสต์นั้นสอดคล้องกับทิศทางราคาขาคงของ Bitcoin ในขณะนี้เนื่องจากปรับตัวร่วงลงทะลุ 28,044.47 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยที่ 959,223.57 บาท หรือลดลง -2.10% ณ เวลา 16.17 น. โดย ณ วันที่ 1 พฤษภาคมนั้นราคาบิทคอยน์เคลื่อนไหวอยู่ที่ 29,000 ดอลลาร์ โดยมีจุดต่ำสุดในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 27,595 ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจากการปลดล็อกเหรียญมูลค่าจำนวนมากในโครงการคริปโตดังกล่าว จะสร้างแรงกระชากให้ราคาเหรียญต่างๆปรับตัวลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ