ผู้ถือหุ้นมีมติเอกฉันท์ไฟเขียว DITTO ถือหุ้น SIT 18% ระบุเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านให้บริการในสนามบิน 1 ใน 3 ของโลก ตั้งเป้ารับท่องเที่ยวโต ได้สัญญาจาก ทอท.ดูแลสนามบิน 6 แห่งยาวถึงปี 71 และลาวอีก 18 ปี พร้อมจับมือบุกต่างประเทศ
นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท ดิทโต้ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้เข้าลงทุนในหุ้นสามัญบริษัท โสมาภา อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (Somapa Information Technology PCL) หรือ SIT จำนวน 45,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 18 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,080,000,000 บาท จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม
เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพของ SIT เป็นผู้เชี่ยวชาญซอฟต์แวร์และเป็นผู้ให้บริการ ระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) และประมวลผลรายการข้อมูลสำหรับฐานข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสาร (PNR) รายเดียวในประเทศไทยและเป็น 1 ใน 3 บริษัทของโลก
นายฐกร กล่าวต่อไปอีกว่า ปัจจุบัน SIT ได้รับสัญญาจากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) ในการบริหารจัดการระบบคัดกรองผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออกในสนามบินของบริษัทการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยทั้ง 6 แห่ง ระยะเวลาสัญญายาวไปจนถึงปี 2571 ส่วนรายได้คิดจาก Transaction ของจำนวนผู้โดยสาร หากมีจำนวนผู้โดยสารมากเท่าไหร่รายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
นอกจากนี้ ทาง SIT ยังได้รับสัญญาจากรัฐบาลลาว เป็นผู้ให้บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) และประมวลผลรายการข้อมูลสำหรับฐานข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสาร (PNR) โดยมีระยะเวลาของสัญญายาวถึง 18 ปี และได้ดำเนินการมาแล้ว 3 ปี ยังเหลือเวลาอีก 15 ปี ตรงนี้ถือว่า DITTO มีส่วนในการรับรู้รายได้ด้วย ในอนาคตอันใกล้ทาง SIT ยังเตรียมขยายธุรกิจไปกลุ่มอาเซียน โอเชียเนีย และแอฟริกากว่า 20 ประเทศ
นายฐกร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อดูศักยภาพทางธุรกิจของ SIT แล้ว เห็นว่าเป็นประโยชน์กับธุรกิจของ DITTO จากการเข้าร่วมถือหุ้น 18% ในครั้งนี้อย่างมาก ทั้งการรับรู้รายได้ที่มีแนวโน้มที่ดีจากการที่ไทยได้เปิดประเทศ มีนักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าในปี 2566 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน และในปี 2567 การท่องเที่ยวจะกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด ในการรับรู้รายได้นั้นทาง DITTO จะเริ่มรับรู้รายได้สิ้นปี 2566 เป็นต้นไป
ส่วนในต่างประเทศนั้น นอกจาก DITTO จะได้รายได้จากสัญญาที่ได้จากรัฐบาลลาวในอีก 15 ปีที่เหลือแล้ว ในประเทศอื่นๆ ที่เป็นเป้าหมายอีกกว่า 20 ประเทศ ทาง DITTO มีทั้งเข้าไปร่วมลงทุนกับ SIT และเป็นช่องทางให้นำ Product ของบริษัท ไปบุกตลาดในประเทศเหล่านี้ควบคู่กันไปด้วย
"การเข้าไปถือหุ้น SIT นอกจากจะแตกไลน์ธุรกิจเดิมไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ แล้ว ยังเป็นช่องทางให้ DITTO รุกขยายธุรกิจต่างประเทศอย่างจริงจังอีกด้วย" นายฐกร กล่าว