"เจนก้องไกล" ยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต.เสนอขาย IPO 110 ล้านหุ้น พร้อมลุยจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ mai ระดมทุนขยายโครงการอาคารจอดรถ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน รองรับการเติบโตในอนาคต
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ หรือ JPARK) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน หรือ IPO พร้อมแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ หรือ Filing ของ JPARK ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 โดยในปัจจุบัน JPARK มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 145 ล้านบาท คิดเป็น 290 ล้านหุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ หรือ par หุ้นละ 0.50 บาท โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน IPO อีก 110 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 27.50% ของทุนชำระแล้วหลังการเสนอขาย IPO รวมเป็นทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท และจะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)
นายสุพล ค้าพลอยดี กรรมการผู้จัดการ บริษัทแอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ หรือ JPARK) เปิดเผยว่า JPARK มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจบริหารจัดการพื้นที่จอดรถมามากกว่า 20 ปี สามารถนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละประเภทได้อย่างครบวงจร ซึ่งภายหลังจากการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จะผลักดันให้สามารถขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพและสร้างโอกาสในการเติบโตในอนาคต ด้วยทีมงานที่มีความพร้อมและประสบการณ์ รวมถึงความเชี่ยวชาญในธุรกิจ
นายสันติพล เจนวัฒนไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) หรือ JPARK เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารพื้นที่จอดรถ โดยแบ่งเป็น 3 ธุรกิจหลักคือ 1.ธุรกิจให้บริการที่จอดรถ (Parking Service Business : PS) 2.ธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (Parking Management Service Business : PMS) และ 3.ธุรกิจให้คำปรึกษา และรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (Consultant and Installation Parking System Business : CIPS) โดยในปัจจุบันบริษัทฯ มีช่องจอดภายใต้การดูแลกว่า 25,000 ช่องจอด โดยมีทั้งบริเวณจุดเชื่อมต่อ จุดเปลี่ยนผ่านกับระบบรถไฟฟ้า บริเวณศูนย์การค้า/ตลาด บริเวณโรงพยาบาล สถานศึกษา สนามบิน ซึ่งพื้นที่ให้บริการส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
โดยภายหลังจากการระดมทุน JPARK มีแผนที่จะลงทุนขยายโครงการอาคารจอดรถโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าจำนวน 6 ชั้น รองรับรถยนต์ได้ 532 คัน และรองรับรถจักรยานยนต์ได้ 72 คัน โดยมีพื้นที่ใช้สอย 18,242 ตารางเมตร พื้นที่พาณิชย์ 2,049 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2567 รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
"การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างโอกาสการเติบโตให้ธุรกิจในอนาคต โดย JPARK พร้อมที่จะทุ่มเททำงานเพื่อให้บริการ ด้วยทีมงานที่มีคุณภาพ สร้างทีมงานให้มีความพร้อม พัฒนาเทคโนโลยีในด้านการให้บริการ และบริหารพื้นที่จอดรถด้วยการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง" นายสันติพล กล่าว
ในขณะที่ผลประกอบการของ JPARK ในปี 2563-2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 286.17 ล้านบาท 243.61 ล้านบาท และ 455.09 ล้านบาทตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 6.51 ล้านบาท ขาดทุน 10.99 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 55.05 ล้านบาท ตามลำดับ โดยในช่วงปี 2563 จนถึงต้นปี 2565 ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทต่ำกว่าช่วงเวลาปกติ เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdown จากสถานการณ์ COVID-19 จึงส่งผลให้รายได้จากธุรกิจให้บริการที่จอดรถลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปี 2565 เมื่อสถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลายลง ประกอบกับการที่บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ และธุรกิจให้คำปรึกษา และรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมในปี 2565 บริษัทมีรายได้ และความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น