วิกทอเรีย, เซเชลส์ วันที่ 28 เมษายน 2023 - Bitget แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนอนุพันธ์คริปโตและ Copy Trading ชั้นนำได้เผยแพร่งานวิจัยชิ้นใหญ่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างความเปลี่ยนแปลงของกลุ่มประชากรและอัตราการใช้งานคริปโทเคอร์เรนซีในกลุ่มคนรุ่นต่างๆ ทั้งนี้ แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนดังกล่าวประมวลคำตอบแบบสำรวจกว่า 255,000 ฉบับจาก 26 ประเทศ
โดยจัดประเภทผู้เข้าร่วมเป็น 4 กลุ่มอายุด้วยกัน ผลการวิเคราะห์สรุปได้ว่ากลุ่ม Millenial เป็นคนส่วนมากในกลุ่มผู้ที่มีสนใจกระตือรือร้นในเรื่องคริปโต โดยนับเป็น 46% ของผู้ตอบแบบสำรวจ และชี้ว่าการมีตัวแทนจากผู้คนหลายกลุ่มในหน่วยงานกำกับดูแลของภาครัฐสามารถกำหนดแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่จะมีประโยชน์กับคริปโตได้
Bitget ได้ทำการวิจัยชิ้นนี้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022 ถึงมกราคม 2023 และได้ส่งแบบแบบสอบถามให้กว่าบุคคลกว่า 459,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 255,000 คนทีเดียว ทั้งนี้ มีการนำข้อมูลที่เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยอย่างข้อมูลการเจริญพันธุ์และดัชนีการใช้งานคริปโทเคอร์เรนซีในประเทศที่ได้เลือกมาวิจัย มาหาความสัมพันธ์กับปัจจัยอย่างอื่น เช่น แนวโน้มการใช้ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนของผู้อาศัยในประเทศที่เลือกมาวิจัย และข้อมูลว่าด้วยกลุ่มประชากรของผู้เป็นเจ้าของคริปโทเคอร์เรนซีในท้องถิ่น
ผู้ตอบแบบสอบถามได้รับการจัดประเภทตามกลุ่มอายุ ได้แก่กลุ่ม Baby Boomer, Gen X, Millenial และ Gen Z โดยในกลุ่มนี้ Baby Boomer คิดเป็น 19% ของกลุ่มตัวอย่างที่ทำการสำรวจ โดยมีผู้ถือคริปโทเคอร์เรนซีอยู่ 8% กลุ่ม Gen X คิดเป็น 23% ของกลุ่มตัวอย่าง โดยมีผู้ถือคริปโตอยู่ 25% ทั้งนี้ Millenial คิดเป็น 45% และ 31% และสุดท้าย ผู้ใหญ่ในกลุ่ม Gen Z คิดเป็น 21% และ 17% ตามลำดับ ตามประเภทที่จัดมา
สถิติดังกล่าวชี้ว่ามีความแตกต่างกันในการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลระหว่างกลุ่มอายุต่างๆ โดยเฉพาะในประเทศที่ประชากรมีความคาดหมายในการคงชีพที่ยาว และได้รับการศึกษาสูงเช่นประเทศญี่ปุ่น
ข้อมูลที่ประมวลผลออกมายังชี้อีกว่ากลุ่ม Millenial เป็นกลุ่มที่ภักดีต่อคริปโทเคอร์เรนซีมากที่สุด เนื่องจากมีความคุ้นเคยกับอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีดิจิทัลมากกว่า เมื่อเทียบกับประชากรรุ่นที่อายุมากกว่า อีกทั้ง ประชากรกลุ่มดังกล่าวก็อยู่ในช่วงเริ่มสร้างพอร์ตการลงทุนของตนอีกด้วย และเห็นว่าคริปโทเคอร์เรนซีเป็นโอกาสที่น่าดึงดูดเนื่องจากมีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนสูง
ดังที่เห็นในปี 2017 เป็นต้นมา ทั้งนี้ ยังพบว่ากลุ่มตัวแทน Gen Z ก็เป็นผู้ชื่นชอบเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่สนใจจะมาใช้บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย เนื่องจากพวกเขาไม่มีประสบการณ์ในทางลบกับวิกฤติการณ์ทางการเงินเพราะเกิดหลังจากปี 2008
การประมวลผลสถิติที่เกี่ยวข้องว่าด้วยทัศนคติต่อการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลชี้ว่ากลุ่มคนในรุ่นที่ยิ่งเด็กลงก็ยิ่งกระตือรือร้นต้องการให้ผู้แทนของตนที่มีอำนาจอยู่มีความสนใจในการกำกับดูแลสินทรัพย์บล็อกเชนไปในทางเดียวกับตนเอง โดยมีการพุ่งสูงอย่างมีนัยสำคัญของสถิติเป็นเปอร์เซ็นต์ จาก 6% ของกลุ่ม Gen X เป็น 27% ในกลุ่ม Millennial การพุ่งสูงตรงนี้ยังอาจอธิบายได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงในการโยงการให้คุณค่าสิ่งต่างๆ ในคนสองรุ่นนี้ โดยเฉพาะคุณค่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ประเด็นความสมดุลในการทำงานและการใช้ชีวิต ปัจจัยความหลากหลายและการโอบอุ้มคนในสังคม และการเสื่อมถอยของความเชื่อมั่นในสถาบันต่างๆ
โดยมีแนวโน้มว่าอิทธิพลของกลุ่ม Baby Boomer และ Gen X จะอ่อนลง เนื่องจากภายในปี 2030 กลุ่ม Gen Z ทุกคนจะโตเป็นผู้ใหญ่ และการกระจายตัวของเทคโนโลยีบล็อกเชนในช่วงเวลาดังกล่าวอาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของอัตราการใช้งานคริปโทเคอร์เรนซีในกลุ่มคนทุกรุ่นก็ได้ ดังนั้น โอกาสที่การยอมรับคริปโทเคอร์เรนซีจะมีการเติบโตในช่วงปีต่อๆ ไปนั้นมีสูงมาก
“ความนิยมและการยอมรับคริปโทเคอร์เรนซีแตกต่างกันไปในกลุ่มอายุต่างๆ โดยงานวิจัยนี้ทำให้เราได้เข้าใจความต้องการและความชอบของผู้ใช้คริปโตได้ดีขึ้น และทำให้เราสามารถปรับใช้แผนที่เหมาะสมสำหรับเตรียมรับการใช้งานอุตสาหกรรมนี้อย่างกว้างขวาง"
ทั้งนี้ ที่ Bitget ภารกิจของเราคือการสร้างแรงบันดาลใจให้คนเปิดรับคริปโตด้วยเครื่องมืออันทรงพลังซึ่งใช้งานได้ง่าย ด้วยการให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับการเทรดและ Copy Trading ที่ใช้งานง่าย รวมถึงการทำงานวิจัยอย่างกว้างขวางเพื่อเป็นข้อมูลให้กลยุทธ์ของเรา เรามุ่งจะเป็นผู้เล่นที่มีบทบาทสำคัญในการเติบโตของอุตสาหกรรมที่น่าตื่นตาและเต็มไปด้วยนวัตกรรมแห่งนี้” Gracy Chen กรรมการผู้จัดการของ Bitget ได้ให้ความเห็นไว้เกี่ยวกับงานวิจัยชิ้นนี้
การวิเคราะห์ข้อมูลในภาพรวมที่ได้รับมาระหว่างการวิจัยทำให้ทีมงาน Bitget สามารถสรุปได้ว่าการเติบโตของประชากรในประเทศที่ทำการวิจัยนั้นโดยทั่วไปแล้วเชื่องช้าลง เมื่อประกอบกับความคาดหมายในการคงชีพที่เพิ่มขึ้น ก็อาจมีสถานการณ์การปฏิเสธคริปโทเคอร์เรนซีอย่างสิ้นเชิง และนำไปสู่การขัดขวางนวัตกรรม และเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม การลดลงของสัดส่วน Baby Boomer และ Gen X จากประชากรทั้งหมดอาจนำไปสู่กระบวนการปลดล็อกและฟื้นฟูโซลูชันที่เป็นประโยชน์กับสังคม และการที่แนวคิดนิยมความก้าวหน้าจะมาแทนที่อนุรักษ์นิยมได้
งานวิจัยดังกล่าวที่ Bitget จัดทำขึ้นนั้นเป็นแหล่งข้อมูลล้ำค่าที่ทำให้นักวิจัยจากหลายสาขาได้มีมุมมองที่ครบถ้วนขึ้นในด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางขึ้นด้วยในเรื่องเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยี นอกจากนี้ งานดังกล่าวยังอาจเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการหาความสอดคล้องกันและความเชื่อมโยงต่างๆ ให้แก่บริษัทเทคโนโลยีคริปโต องค์การของรัฐ แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต และบริษัทอื่นๆ ที่สนใจจะหาข้อได้เปรียบในการแข่งขันอีกด้วย
ผลการวิจัยนี้ยังชี้ด้วยว่าภายในช่วงต้นทศวรรษข้างหน้า กระบวนการทางประชากรศาสตร์อาจนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้คริปโทเคอร์เรนซีได้รับการยอมรับมากขึ้น แม้ว่าจะการเติบโตของประชากรจะเป็นไปในทิศทางที่ช้าลงได้ด้วยเช่นกัน