หุ้นปิดเช้าบวก 1.89 จุดตามตลาดต่างประเทศ รับความหวังเฟด พ.ค.ขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย และหลังจากนั้นจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ โดยช่วงเวลาที่มีการคงอัตราดอกเบี้ยไว้จะพบว่าเป็นช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นสามารถ Perform ได้ดี ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ อีกทั้งในส่วนของผลกระทบของหุ้น DELTA ที่มีผลต่อดัชนีลดลง หลังจากวันนี้ได้เทรดบนพาร์ใหม่
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ในช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ หลังสหรัฐฯ รายงาน GDP ไตรมาส 1/66 ออกมาเติบโต 1.1% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2% ทำให้ตลาดคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายในการประชุมต้นเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้ และหลังจากนั้นจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ โดยช่วงเวลาที่มีการคงอัตราดอกเบี้ยไว้จะพบว่าเป็นช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นสามารถ Perform ได้ดี
ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ โดยที่ยังคงติดตามการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ของบริษัทจดทะเบียนออกมาต่อเนื่อง อีกทั้งในส่วนของผลกระทบของหุ้น DELTA ที่มีผลต่อดัชนีลดลง หลังจากวันนี้ได้เทรดบนพาร์ใหม่ ซึ่งเมื่อวานนี้หากไม่รวมผลกระทบจากราคาหุ้น DELTA ที่ปรับลงแรง จะถือว่าดัชนีสามารถปรับขึ้นได้เล็กน้อย
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,533.12 จุด เพิ่มขึ้น 1.89 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.12% มูลค่าการซื้อขาย 19,639.82 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายคาดว่าจะแกว่งตัวแดนบวกต่อ และในคืนนี้ยังต้องติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ที่มีความสำคัญที่เฟดจะใช้ประกอบการพิจารณาในเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยว่าจะออกมาเป็นอย่างไร โดยให้แนวต้าน 1,545 จุด แนวรับ 1,520 จุด