บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ออกแถลงการณ์ชี้แจงกระแสข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการบริหารจัดการ และมีความตั้งใจที่จะแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างไม่สะดุดหยุดลง ในวันที่ 18 เม.ย.66 บริษัทได้แต่งตั้งนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ เข้าดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกำกับดูแลการตรวจสอบข้อเท็จจริง พลิกฟื้นสถานการณ์ และสร้างความมั่นใจให้แก่ทุกฝ่าย
สำหรับความล่าช้าในการจัดทำงบการเงินประจำปี 2565 นั้น บริษัทจะตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมาและโปร่งใส โดยได้ว่าจ้างบริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด (PwC) ผู้สอบบัญชี เพื่อจัดทำ Special Audit และส่งงบการเงินประจำปี 65 อย่างเร่งด่วนที่สุด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.66
"บริษัทได้ดำเนินการตรวจนับสินค้าคงเหลือไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ และทำงานร่วมกับผู้สอบบัญชีและผู้ตรวจสอบพิเศษ (special audit) อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่ถูกต้อง อันเป็นปัจจัยสำคัญต่อการจัดทำงบการเงินประจำปี 2565 ให้แล้วเสร็จตามกำหนดการ"
ขณะที่บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทเพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้พิจารณาแต่งตั้งผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานและคุณวุฒิในการบริหารจัดการเป็นสำคัญ ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการบริษัทมีรายนามดังต่อไปนี้
1.พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการบริษัท
2.นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ กรรมการ / กรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน
3.นายอภิชาติ ตั้งเอกจิต กรรมการ / กรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน
4.นายอภิวุฒิ ทองคำ กรรมการ / ประธานกรรมการตรวจสอบ
5.นายอรรถพล วัชระไพโรจน์ กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ
บริษัทยังยืนยันว่ายังคงดำเนินธุรกิจอย่างปกติ โดยได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินและมีคู่ค้าทางธุรกิจในประเทศและต่างประเทศให้การสนับสนุนและพร้อมดำเนินธุรกิจร่วมกัน ตลอดจนมีสัญญา และ confirm order (backlog ) ราว 1.1 หมื่นล้านบาทที่รอการผลิตและการส่งมอบ
พร้อมกันนั้น ตามที่บริษัทเข้าถือหุ้นใน 2 บริษัทหลัก คือ บริษัท Phelps Dodge International (Thailand) Limited และบริษัท Thipha Cable ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตสายไฟฟ้าและเคเบิลที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม ตามลำดับ ยืนยันว่าบริษัทไม่มีการขายทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบธุรกิจใดๆ
STARK ยังระบุถึงการแก้ไขปัญหาผิดเงื่อนไขหุ้นกู้ทั้ง 5 ชุด ซึ่งจะมีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เม.ย.นี้ว่า หากได้รับความไว้ใจ และจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นกู้และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง บริษัทมีความมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และมีความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ยให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ได้ตามกำหนดเวลา