ผู้ถือหุ้น "เอกชัยการแพทย์" ลงมติจ่ายปันผลเป็นหุ้นอัตราส่วน 40 หุ้นสามัญต่อ 1 หุ้นปันผล พร้อมจ่ายเงินสดอีก 0.32 บาทต่อหุ้น รวมจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.3325 บาท กำหนดจ่ายปันผลวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ เดินหน้าขยายการลงทุนด้านสุขภาพต่อเนื่อง พร้อมทั้งขยายศูนย์ไตเทียม เพิ่มจำนวนเตียง และออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพภายใต้แบรนด์โรงพยาบาลเอกชัย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 10%
นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) (EKH) ผู้ประกอบธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนในจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 มีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลสำหรับงวดปี 2565 ให้ผู้ถือหุ้นเป็นหุ้นปันผล ในอัตรา 40 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล พร้อมทั้งเงินสดปันผลในอัตราหุ้นละ 0.32 บาท รวมจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.3325 บาท คิดเป็นจำนวนเงินในการจ่ายปันผลทั้งสิ้น 224.40 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2566
“เราเชื่อมั่นว่าธุรกิจยังคงเติบโตจากปีก่อน เนื่องจาก EKH มีเป้าหมายที่จะขยายส่วนงานด้านสุขภาพต่างๆ รวมถึงลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และสามารถรองรับการเข้าใช้บริการของประชาชนได้ทั่วถึง จึงอยากให้ผู้ถือหุ้นเติบโตไปพร้อมกัน ซึ่งการที่บริษัทฯ จ่ายปันผลเป็นหุ้นและเงินสดให้ผู้ถือหุ้นเพื่อเป็นการขอบคุณผู้ถือหุ้นที่มั่นใจในผู้บริหาร ธุรกิจ และผลประกอบการที่เติบโตอย่างมีศักยภาพ รวมทั้งขอให้เชื่อมั่นในทีมผู้บริหารว่าปีนี้จะสามารถผลักธุรกิจของ EKH ให้แข็งแกร่ง โดยตั้งเป้ารายได้รวมจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%” นายแพทย์อำนาจ กล่าว
สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2566 เชื่อว่าจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยปีนี้ได้มีการขยายศูนย์ไตเทียมเพิ่มอีก 14 เตียง รวมเป็น 24 เตียง และออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพภายใต้แบรนด์ของโรงพยาบาลเอกชัย เพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ ขณะที่โรงพยาบาลคูน ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีผลประกอบการที่ดี ส่วนศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) หลังจากที่เปิดประเทศ ทำให้ EKH ได้รับประโยชน์จากลูกค้าชาวจีน
ขณะที่จำนวนผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) ที่เข้ารับการรักษาตามศูนย์บริการทางการแพทย์ที่รักษาโรคเฉพาะทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ฉุกเฉิน ศูนย์กุมารเวช ศูนย์สูติ-นรีเวช ศูนย์ หู ตา คอ จมูก ศูนย์ทันตกรรม ศูนย์กายภาพบำบัด และศูนย์ไตเทียมยังเข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสามารถรับรู้รายได้จากการลงทุนในคลินิกเสริมความงาม บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ จึงทำให้มั่นใจได้ว่าแผนการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจะช่วยสนับสนุนให้การเติบโตของรายได้ และกำไรเติบโตมากยิ่งขึ้น