“คริปโตในอเมริกาตายแล้ว!!” นักลงทุนดังจวกหน่วยงานรัฐจ้องจับผิด

ชามัท ปาลิฮาปิติยา นักลงทุนชื่อดัง ชี้อุตสาหกรรมคริปโตในอเมริกาตายแล้ว เพราะต้องชดใช้สำหรับการท้าทายสถาบันการเงินและเศรษฐกิจ ขณะที่คริสโตเฟอร์ จิอันคาร์โล อดีตประธาน Commodities Futures Trading Commission คิดเหมือนกันว่า ที่วอชิงตันแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อคริปโตเป็นเพราะเทคโนโลยีนี้คุกคามระบบการเงินดั้งเดิม

ปาลิฮาปิติยา นักลงทุนระดับมหาเศรษฐีที่มีส่วนในการก่อตั้งเฟซบุ๊ก กล่าวในรายการพ็อดแคสต์ All-in ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า คริปโตในอเมริกาตายแล้ว แม้แต่วิกฤตการธนาคาร แกรี่ เกนสเลอร์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ยังโยนความผิดให้คริปโต ดังนั้น คงไม่ผิดถ้าจะพูดว่า หน่วยงานกำกับดูแลของอเมริกากำลังเล็งปากกระบอกปืนไปที่อุตสาหกรรมนี้

ความคิดเห็นนี้มีขึ้นขณะที่ SEC เพิ่มความพยายามบดขยี้ภาคอุตสาหกรรมคริปโต

ตัวอย่างล่าสุดของความพยายามในการบังคับใช้กฎหมายของ SEC รวมถึงการยื่นข้อเสนอให้ที่ปรึกษาการลงทุนหยุดเทรดคริปโตและขู่ดำเนินการทางกฎหมายกับผลิตภัณฑ์มากมายของคอยน์เบสเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

จากการแถลงข่าวของแพลตฟอร์มเทรดคริปโตแห่งนี้ คำขู่ของ SEC มีขึ้นหลังจากคอยน์เบสพยายามขอแนวทางระเบียบข้อบังคับที่ชัดเจนขึ้นจาก SEC

สัปดาห์ที่แล้ว ไบรอัน อาร์มสตรอง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (CEO) คอยน์เบส ประกาศว่า อาจย้ายออกจากอเมริกาเนื่องจากไม่มีกฎระเบียบที่ชัดเจน

นอกจากนั้นเมื่อไม่นานมานี้ บิตเทร็กซ์ กระดานเทรดคริปโตอีกแห่ง ยังออกปากว่า อาจทิ้งอเมริกาเพราะการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่ชัดเจนเช่นเดียวกัน โดยเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (17) SEC กล่าวหาบิตเทร็กซ์ดำเนินการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน
ปาลิฮาปิติยาคิดว่า สาเหตุที่คริปโตต้องชดใช้อย่างหนักในขณะนี้เป็นเพราะบริษัทคริปโตอาจเป็นสิ่งที่คุกคามสถาบันการเงินมากที่สุด รวมทั้งยังท้าทายระบบเศรษฐกิจมากกว่าสตาร์ทอัพแขนงใดๆ ทั้งหมด

ไม่ได้มีแค่ปาลิฮาปิติยาเท่านั้น สัปดาห์ที่แล้วเกนส์เลอร์ยังถูกสมาชิกสภาสังกัดพรรครีพับลิกันวิจารณ์คล้ายกันระหว่างที่เขาให้การต่อคณะกรรมาธิการบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ เรื่องที่ SEC ไล่กวาดล้างบริษัทคริปโต

สมาชิกสภาบางคนเสนอให้สร้างกรอบโครงกฎระเบียบใหม่แทนที่จะรับประกันว่า บริษัทคริปโตจะไม่หนีไปประเทศอื่น

แพทริก แม็กเฮนรี่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แนะนำว่า การบังคับใช้กฎข้อบังคับไม่เพียงพอและไม่ยั่งยืน และว่า หน่วยงานกำกับดูแลกำลังลงโทษบริษัทสินทรัพย์ดิจิตอลด้วยการกล่าวหาว่า ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายขณะที่บริษัทเหล่านั้นไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร

ล่าสุดยังมีคริสโตเฟอร์ จิอันคาร์โล อดีตประธาน Commodities Futures Trading Commission ที่แสดงความผิดหวังต่อท่าทีการเป็นปฏิปักษ์ของวอชิงตันต่อคริปโตระหว่างให้สัมภาษณ์กับฟอร์แคสต์

เขาบอกว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ งงงันและทำอะไรไม่ถูกเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงและการท้าทายของเทคโนโลยีใหม่ๆ และว่า หน่วยงานกำกับดูแลในวอชิงตันมีท่าทีไม่เป็นมิตรกับเทคโนโลยีกระจายศูนย์เนื่องจากเทคโนโลยีเหล่านี้คุกคามระบบการเงินดั้งเดิม

จิอันคาร์โลเรียกร้องให้อเมริกาหยุดต่อต้านนวัตกรรมคริปโต แต่ควรมองเป็นโอกาสในการรีเซ็ตระบบการเงินในแบบที่เป็นประชาธิปไตยและยอมรับความหลากหลายทางการเงินมากขึ้น

เขาสำทับว่า เรื่องอื้อฉาวของแพลตฟอร์มเทรดคริปโต FTX คือเรื่องอื้อฉาวของวอชิงตัน และบอกว่า เจ้าหน้าที่หลายประเทศที่เขาเคยพูดคุยมาล้วนโฟกัสโอกาสที่เกิดจากเทคโนโลยีคริปโตและวิธีส่งเสริมผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ไม่ได้มัวหมกมุ่นกับ FTX

จิอันคาร์โลวิจารณ์การกวาดล้างบริษัทคริปโตของอเมริกาว่า SEC ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระที่รายงานต่อรัฐสภาและทำเนียบขาว กำลังทำตัวเป็นหน่วยงานของฝ่ายบริหารที่ต้องผลักดันนโยบายของรัฐบาล