xs
xsm
sm
md
lg

KTIS เผยผลิตน้ำตาลสูงกว่าปีก่อน 23.4%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลุ่ม "เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น" เผยข้อมูลหลังปิดหีบอ้อย ฤดูกาลผลิตปี 65/66 ของ 3 โรงงานได้อ้อยรวม 6.9 ล้านตัน ผลิตน้ำตาลได้ 7.9 ล้านกระสอบ สูงกว่าปี 64/65 ที่ได้อ้อยรวม 6.2 ล้านตัน และน้ำตาล 6.4 ล้านกระสอบ ปลื้มคุณภาพอ้อยและประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลสูงขึ้น ทำให้ได้น้ำตาลมากกว่าปีก่อนถึง 23.4% มั่นใจผลการดำเนินงานปีนี้ดีกว่าปีก่อน

นายสมชาย สุวจิตตานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจอ้อยและน้ำตาล และผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่ม KTIS เปิดเผยข้อมูลผลผลิตอ้อยและน้ำตาลของกลุ่ม KTIS สำหรับฤดูกาลผลิตปี 2565/66 ว่า มีอ้อยเข้าหีบรวม 6.9 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่าผลผลิตอ้อยของฤดูการผลิตปี 2564/2565 ซึ่งอยู่ที่ 6.2 ล้านตัน และผลิตน้ำตาลทรายได้ 7.9 ล้านกระสอบ สูงกว่าปีก่อนที่ผลิตน้ำตาลทรายได้ 6.4 ล้านกระสอบ คิดเป็นปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นถึง 23.4%

ทั้งนี้ เมื่อเทียบผลผลิตอ้อยและน้ำตาลของกลุ่ม KTIS กับภาพรวมของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลรวมทั้งประเทศ ฤดูกาลผลิตปี 2565/2566 ซึ่งมีอ้อยรวม 93.9 ล้านตัน และผลิตน้ำตาลได้ 110.2 ล้านกระสอบ พบว่า สัดส่วนอ้อยและน้ำตาลของกลุ่ม KTIS เมื่อเทียบกับทั้งอุตสาหกรรมอยู่ที่ 7.35% และ 7.17% ตามลำดับ สูงขึ้นกว่าปีก่อนที่มีสัดส่วน 6.73% และ 6.30% ตามลำดับ สะท้อนความมุ่งมั่นในการส่งเสริมและพัฒนาอ้อย พร้อมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลอย่างต่อเนื่อง

ที่สำคัญคือ คุณภาพอ้อยปีนี้ดีขึ้นกว่าปีก่อนมาก โดยค่าความหวานของอ้อยทั้งกลุ่ม KTIS ปีนี้เฉลี่ยสูงถึง 13.08 C.C.S. ในขณะที่ปีก่อนเฉลี่ยเพียง 12.09 C.C.S. ทำให้ผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อย (ยิลด์) ปีนี้สูงถึง 114.7 กิโลกรัมต่อตันอ้อย โดยเฉพาะโรงงานน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 โรงงานของกลุ่ม KTIS ได้ค่าความหวานอ้อยปีนี้เฉลี่ยสูงถึง 13.35 C.C.S. และได้ผลผลิตน้ำตาลสูงถึง 120.4 กิโลกรัมต่อตันอ้อย” นายสมชาย กล่าว

“ปริมาณอ้อยที่เพิ่มขึ้นส่งผลดีต่อทุกสายธุรกิจ ประกอบกับราคาผลผลิตที่สูงขึ้น ทั้งราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกที่สูงที่สุดในรอบ 11 ปี ราคาขายเอทานอล เยื่อกระดาษ และไฟฟ้าสูงขึ้นด้วย จึงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานของกลุ่ม KTIS ในปี 2566 นี้จะดีขึ้นกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก” นายสมชาย กล่าว

สำหรับในปีนี้ บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการผลิตบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมจากเยื่อชานอ้อยบริสุทธิ์ 100% ซึ่งมีกำลังการผลิตสูงถึง 50 ตันต่อวัน หรือ 3 ล้านชิ้นต่อวัน และยังมีรายได้ที่จะเข้ามาเพิ่มเติมจากโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ (NBC) เฟส 1 ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท จีจีซี เคทิสไบโออินดัสเทรียล จำกัด หรือ GKBI บริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่ม KTIS และกลุ่ม ปตท. ซึ่งมีโรงงานผลิตเอทานอลจากน้ำอ้อย กำลังการผลิต 6 แสนลิตรต่อวัน และโรงไฟฟ้ากำลังการผลิตติดตั้งรวม 85 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 520 ตัน โดยมีสัญญาขายไฟฟ้า 30 เมกะวัตต์


กำลังโหลดความคิดเห็น