ถ้าหุ้นบริษัท สตาร์ค คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ยังเปิดการซื้อขายอยู่ คงถูกถล่มขายจนติดฟลอร์ไม่รู้กี่ฟลอร์ เพราะข่าวร้ายไหลทะลักออกมาต่อเนื่อง ล่าสุด มีการผ่าตัดคณะกรรมการบริษัทชุดใหญ่ โดยนายชนินทร์ เย็นสุดใจ กุญแจตัวสำคัญของปัญหาภายใน STARK กระเด็นจากตำแหน่งประธานกรรมการเป็นที่เรียบร้อย
STARK กำลังอยู่ในสภาพน้ำลดตอผุด เพราะตั้งแต่ไม่ส่งงบการเงินปี 2565 ตามที่กำหนด จนถูกตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย SP พักการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ข่าวไม่ดีเกี่ยวกับฐานะการเงินของบริษัทก็ถูกขุดคุ้ยออกมาไม่ขาดสาย
STARK เปลี่ยนชื่อมาจากบริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ SMM ซึ่งตกอยู่ในสภาพรอวันตายซาก โดยกลุ่มนายวนรัชต์ ได้เข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนในราคาหุ้นละ 60 สตางค์ และเข้าไปถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนประมาณ 94% เมื่อปี 2561
นอกจากเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่แล้ว ยังปรับโครงสร้างธุรกิจสู่การผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิล ทำให้ผลประกอบการฟื้นตัวขึ้น มีกำไรเติบโตต่อเนื่อง ราคาหุ้นปรับตัวตามจนเป็นหุ้นที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนรายย่อย รวมทั้งนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ
ภาพที่ถูกสร้างจนดูดี กลายเป็นบริษัทที่มีอนาคตสดใส ทำให้บริษัทระดมทุนได้อย่างคล่องตัว สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ กว่า 8 พันล้านบาท ออกหุ้นกู้จำนวนกว่า 9,000 ล้านบาทขายได้หมดเกลี้ยง ออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1,500 ล้านบาท ขายให้นักลงทุนสถาบันจำนวน 11 ราย ในราคาหุ้นละ 3.72 บาท ก็ขายเกลี้ยง ได้เงินรวม 5,580 ล้านบาท
รวมเงินที่ STARK ระดมเข้าไปรวมกว่า 20,000 ล้านบาท ยังไม่นับรวมกำไรสะสมอีกจำนวน 7,849.71 ล้านบาท เมื่อสิ้นเดือนกันยายน 2565
แต่กลับมีข่าวว่าบริษัทอาจมีปัญหาผิดนัดชำระหนี้สถาบันการเงิน และอาจไม่สามารถไถ่ถอนหุ้นได้เมื่อครบกำหนดไถ่ถอน คำถามคือ เงินของบริษัทไหลออกไปทางไหน
เพราะบริษัทไม่เคยจ่ายเงินปันผลคืนกลับผู้ถือหุ้น แม้บริษัทมีกำไรต่อเนื่องก็ตาม และไม่ยอมคืนเงินเพิ่มทุนให้นักลงทุนสถาบัน 11 แห่ง ที่ลงขันซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 5,580 ล้านบาท ทั้งที่แผนการซื้อหุ้นบริษัท LEONI AG และ LEONI Bordnetz-Systeme GmbH และหุ้น LEONI Kabel GmbH ซึ่งเป็นบริษัทจำกัดที่จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของประเทศเยอรมนี
เมื่อเป้าหมายการระดมทุนเพื่อซื้อ LEONI AG ล้ม STARK ควรล้มแผนเพิ่มทุน นำเงินคืนผู้ซื้อหุ้น แต่กลับเก็บไว้ อ้างว่าจะนำไปใช้ขยายการลงทุนด้านอื่นแทน ซึ่งผิดวัตถุประสงค์จากการเพิ่มทุนที่ประกาศไว้ครั้งแรก
งบการเงินปี 2565 ซึ่งกลายเป็นโรคเลื่อนถาวรนั้น ทำให้เกิดปมสงสัยว่า STARK ต้องมีปัญหาซุกซ่อนภายในแน่ อาจมีอะไรอยู่ใต้พรมจนปิดบัญชีงบการเงินไม่ลง
และการโละคณะกรรมการเกือบยกชุดนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการล้างไพ่ใหม่ แต่จะล้างปัญหาซ่อนเร้นภายในที่ถูกหมกสะสมไว้ได้หรือไม่
งบการเงินปี 2565 จะเป็นตัวเฉลยเบื้องต้นว่าหุ้น STARK เน่าหรือไม่เน่าขนาดไหน ซึ่งจะต้องรอลุ้นในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายนนี้ โดยหวังว่า ผู้บริหารบริษัทฯ จะไม่ขอเลื่อนอีก
ไม่อาจรู้ว่า STARK จะกลับมาซื้อขายได้เมื่อไหร่ แต่กลับมาครั้งใหม่มีแนวโน้มว่าจะถูกถล่มเละ จากราคาปิดล่าสุดที่ 2.38 บาท
นักลงทุนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 9,613 ราย ผู้ถือหุ้นกู้จำนวนประมาณ 5 พันราย นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศนับสิบแห่ง ทั้งแบงก์ ทั้งกองทุนรวมถูก STARK กินเรียบ ตายกันเป็นเบือ
แต่นายวนรัชต์ ทยอยขายหุ้นทำกำไรไปแล้ว คณะกรรมการบริษัทฯ ไม่มีข่าวว่ามีผู้ใดสูญเสีย หรือมีผู้ใดหอบความมั่งคั่งออกไปจาก STARK
ช่วงนี้มีบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งประกาศเพิ่มทุน ออกหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ยงามๆ จูงใจให้ซื้อ นักลงทุนต้องระมัดระวังกัน เพราะเงินอาจถูกสูบหายเหมือน STARK หุ้นกู้อาจมีปัญหาไถ่ถอนตามมาง่ายๆ
ปัญหาที่ถูกซุกอยู่ใต้พรมใน STARK เป็นเพียงจุดเริ่มต้นทุนเท่านั้น เพราะสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะต้องเข้าตรวจสอบขุดคุ้ยต่อไป
มีขบวนการผ่องถ่ายในบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้หรือไม่ ทำไมบริษัทจดทะเบียนที่ถูกสร้างภาพเป็นกิจการที่ดี มีความมั่นคง เติบโตต่อเนื่องมาหลายปี จนนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศแห่เข้าไปถือหุ้น
แต่วันนี้ STARK กลับตกอยู่ในสภาพล้มทั้งยืน และมีบริษัทจดทะเบียนอื่นที่สร้างภาพลวงตาจนดูเหมือนดีเช่นเดียวกับ STARK อีกหรือไม่