ผู้ถือหุ้น "ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง" ยกมือหนุนอนุมัติจ่ายปันผลอีก 0.23 บาท/หุ้น รวมทั้งปีจ่าย 0.41 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 2 พ.ค. กำหนดจ่าย 19 พ.ค.นี้ ผู้บริหารมั่นใจรายได้ปี 66 โตต่อเนื่อง หลังภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจน สนับสนุนยอดขายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) (SNNP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ในวันที่ 21 เมษายน 2566 ที่ผ่านมามีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลอีกในอัตราหุ้นละ 0.23 บาท สำหรับครึ่งปีหลัง กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 2 พฤษภาคม 2566 และจ่ายเงินวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ทั้งนี้ บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 0.18 บาท รวมทั้งปีเท่ากับ 0.41 บาท/หุ้น สำหรับผลการดำเนินงานปี 2565
ปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น มาจากแผนการตลาดของบริษัทฯ ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และยอดขายสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการออกสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจนในปีที่ผ่านมา กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างไหลกลับ สร้างความคึกคักให้ตลาดเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ เดินหน้าสร้างการรับรู้ของตราสินค้าอย่างต่อเนื่อง และสร้างการกระตุ้นการบริโภคของสินค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแผนการออกสินค้าใหม่ๆ เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งจะช่วยทำให้มีการซื้อสินค้าและของฝาก สร้างความคึกคักให้ยอดขายสินค้าอีกทางหนึ่ง จากปัจจัยดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ในปี 2566 ได้อย่างแข็งแรง
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ SNNP กล่าวอีกว่า การออกสินค้าใหม่นอกจากจะช่วยสร้างความคึกคักในตลาดขนมขบเคี้ยวเป็นอย่างมากแล้ว ยังช่วยกระตุ้นยอดขายของบริษัทฯ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยสนับสนุนผลดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2566 ให้สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ตามแผนงานที่วางไว้
อนึ่ง ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2565 มีกำไรสุทธิจากธุรกิจหลัก ซึ่งไม่รวมกำไรพิเศษอยู่ที่ 541 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 197 ล้านบาท หรือ 57% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 344 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมจากธุรกิจหลักอยู่ที่ 5,556 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,283 ล้านบาท หรือ 30% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 4,273 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์