การไล่ซื้อหุ้นของต่างชาติจำนวน 2,495 ล้านบาท เมื่อวันจันทร์ที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ผลักดันให้ดัชนีพุ่งทะยาน 16.06 จุด ปลุกความหวังของนักลงทุนขึ้นอีกครั้ง โดยคาดว่าต่างชาติจะกลับมาซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่ความหวังของนักลงทุนต้องดับวูบไปเพียงชั่วข้ามคืน เพราะต่างชาติซื้อหุ้นเพียงวันเดียว และกลับมาขายเหมือนเดิม โดยวันพุธที่ 12 เมษายน ก่อนหยุดยาวช่วงสงกรานต์ ต่างชาติเทขายหุ้นออกมาอย่างหนัก 2,024.21 ล้านบาท ทำให้ดัชนีระหว่างชั่วโมงซื้อขายทรุดกว่า 10 จุด แต่กระเตื้องขึ้นและปิดตลาดลบเพียง 4.43 จุด
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์หลายสำนักให้น้ำหนักความสำคัญกับความเคลื่อนไหวของนักลงทุนต่างชาติ โดยถือเป็นปัจจัยชี้นำสำคัญของตลาดหุ้นปีนี้ และประเมินกันว่าต่างชาติจะซื้อหุ้นต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และจะผลักดันให้ดัชนีวิ่งไปแตะระดับ 1,750 จุด ถึง 1,800 จุด
แต่ไตรมาสแรกต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 56,876.12 ล้านบาท และยอดสะสมในเดือนเมษายน ยังเป็นยอดขายสุทธิ 102.07 ล้านบาท
ไม่มีสัญญาณว่าต่างชาติจะกลับมาไล่ซ้อหุ้นเก็บต่อจากปี 2565 ซึ่งซื้อหุ้นสุทธิเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี จำนวนกว่า 2 แสนล้านบาท และตลาดหุ้นไทยไม่มีแรงจูงใจที่ต่างชาติจะต้องเร่งรีบขนเงินกลับเข้ามา
แม้ใกล้เลือกตั้งทั่วไป แม้กำลังจะมีรัฐบาลชุดใหม่ แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดจากนักลงทุนต่างชาติ
ราคาหุ้นแม้จะปรับตัวลง แต่ยังไม่ถูกนักตามสายตาของต่างชาติ ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศยังเปราะบาง แนวโน้มผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไม่โดดเด่น และตลาดหุ้นมีโอกาสปรับฐานลงลึกจากผลกระทบรอบด้าน
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์หลายคนส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนอย่ามองโลกสวย อย่าคาดหวังกับตลาดหุ้นปีนี้มากนัก แต่ต้องระวังความเสี่ยงระหว่างความผันผวน เพราะหุ้นอาจทรุดลงแตะระดับ 1,500 จุดได้ ซึ่งการปรับฐานรอบก่อนหน้า ดัชนีทำท่าจะดิ่งลงไปสู่แนวรับระดับ 1,500 จุดเหมือนกัน
นับจากนี้จนถึงสิ้นปีมองไม่เห็นข่าวดีที่จะกระตุ้นตลาดให้ฟื้นตัวสู่ความคึกคัก หรือพลิกตัวสู่รอบขาขึ้น มีแต่ปัจจัยลบที่ต้องกังวล ทั้งผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย และการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
หลังสงกรานต์นักลงทุนตั้งความคาดหวังว่า หุ้นจะคึกคักขึ้น และดัชนีมีโอกาสทะลุผ่าน 1,600 จุด แต่ประเมินจากสถานการณ์แวดล้อมแล้ว ดัชนีมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบแคบๆ และไม่อาจตีฝ่าแนวต้าน 1,600 จุดได้ แม้จะอยู่ใกล้แค่เอื้อมก็ตาม
นักลงทุนต่างชาติหลอกให้ดีใจเพียงวันเดียว ไล่ซื้อหุ้นเหมือนกำลังยกทัพใหญ่กลับมาไล่หุ้น แต่แล้วก็ขายหุ้นอีกจนดัชนีไปต่อไม่ได้
ต่างชาติซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาดหุ้น ไม่อาจคาดหวังใดๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นครึ่งปีแรกหรือครึ่งปีหลัง ซึ่งหากไม่มีแรงซื้อของต่างชาติหนุน หุ้นคงกลับสู่ความเงียบเหงาซบเซา มูลค่าการซื้อขายหุ้นอาจยืนระดับ 3-4 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับก่อนช่วงสงกรานต์
ปีนี้ต้องเตรียมใจกันไว้ โอกาสทำกำไรจากตลาดหุ้นมีน้อยมาก และหากอยากอยู่ในตลาดหุ้นต่อไปนานๆ ต้องประคับประคองตัวให้รอดพ้นจากปีนี้ไปก่อน เพื่อรอปีหน้าฟ้าใหม่ ซึ่งไม่รู้ว่ารอดจากปีนี้ไปแล้วปีหน้าหุ้นจะฟื้นหรือไม่
หลังสงกรานต์ต้องเฝ้ากระดานหุ้นต่อไป อย่างน้อยรอจนแบงก์ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรก เพราะถ้ากำไรดี มีโอกาสกระตุ้นหุ้นระยะสั้นคึกคักได้เหมือนกัน