การเปิดให้ซื้อขายหุ้นบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK ชั่วคราวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ถือหุ้น นำไปสู่การเทขายหุ้นจนราคารูดลงอย่างหนัก สะท้อนให้เห็นว่าผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ประเมินแล้วว่า หุ้นตัวนี้น่าจะหมดอนาคตแล้ว
ตลาดหลักทรัพย์อนุมัติให้หุ้น SMK กลับมาซื้อขายชั่วคราว ระหว่างวันที่ 10 เมษายนถึงวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ หลังจากขึ้นเครื่องหมาย SP พักการซื้อขายหุ้นเป็นการชั่วคราว เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าต่ำกว่าศูนย์
และผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินปี 2565
SMK เจอมรสุมวิกฤตโควิดเข้าเต็มเปา โดยกรมธรรม์เจอจ่ายจบ สำหรับผู้ทำประกันโควิด ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนผู้ทำประกันจำนวนมาก จนบริษัทขาดสภาพคล่อง ไม่สามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้ครบถ้วน ทำให้บริษัทมีผลขาดทุนในปี 2565 จำนวน 31,996.93 ล้านบาท
ฉุดให้ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ จำนวน 30.487.77 ล้านบาท และเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน
ราคาหุ้น SMK ปิดครั้งสุดท้ายที่ 3.38 บาท โดยมีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ถือหุ้นอยู่จำนวนประมาณ 1,859 ราย ซึ่งส่วนใหญ่แบกหุ้นต้นทุนสูงไว้
หุ้นบริษัทประกันภัยเป็นหุ้นที่ถือเพื่อการลงทุนระยะยาว โดยหวังเงินปันผลตอบแทน ซึ่งก่อนเกิดวิกฤตโควิด SMK จัดเป็นหุ้นประกันภัยที่น่าสนใจ มีผลกำไรที่ดีต่อเนื่อง ปันผลงาม แต่เกิดความผิดพลาดจากการประเมินการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดไว้ต่ำไป จนเกิดความเสียหายจากการจ่ายค่าสินไหมทดแทนจำนวนกว่า 3 หมื่นล้านบาท
แม้ศาลล้มละลายกลางจะอนุมัติคำขอฟื้นฟูกิจการ แต่การฟื้นฟูให้บริษัทกลับมาดำเนินงานตามปกติ มีฐานะการเงินที่มั่นคงคงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะการกอบกู้ให้ส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าเหนือกว่าศูนย์
สิ้นปี 2564 หุ้น SMK ปิดที่ 22.80 บาท ก่อนจะถูกเทขาย จนราคาปรับตัวลงต่อเนื่องจนปิดที่ 3.38 บาท เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ส่วนการเปิดการซื้อขายชั่วคราวในวันแรกหรือวันที่10 เมษายน นักลงทุนเทขายตั้งแต่เปิดตลาด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ราคา 1.57 บาท ลดลง 1.81 บาท หรือลดลง 53.55% มูลค่าซื้อขาย 22.23 ล้านบาท
การซื้อขายในวันที่ 11 เมษายน ราคาหุ้น SMK ยังดิ่งลงต่อ โดยปิดที่ 1.10 บาท หรือลดลง 29.94% เป็นการลงต่ำสุดติดฟลอร์ 30% มูลค่าซื้อขาย 14.82 ล้านบาท
และการซื้อขายวันที่ 12 เมษายน ก่อนหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ SMK ถูกถล่มขายจนติดฟลอร์ 30% ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ราคา 77 สตางค์ ลดลง 33 สตางค์
3 วันแรกของการเปิดให้ซื้อขายชั่วคราว ผู้ถือหุ้นเดิมถล่มแหลกขายทิ้ง SMK เพราะประเมินแล้วเห็นว่า ชะตากรรมของหุ้นตัวนี้จะอวสานอย่างไร การรั้งรอการตัดสินใจ อาจทำให้เสียหายหนักขึ้น จึงชิงกันขายหนีตาย
ไม่อาจคาดหมายได้ว่า ในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเปิดให้ซื้อขายชั่วคราวหุ้น SMK ราคาจะปิดลงที่เท่าไหร่ และจะลงไปอีกลึกขนาดไหน เพราะไม่มีแรงจูงใจใดๆ ที่จะซื้อหุ้นเก็บ
ความล่มสลายของ SMK กลายเป็นอีกโศกนาฏกรรมในตลาดหุ้น แม้จะเป็นโศกนาฏกรรมของนักลงทุนจำนวนเพียงประมาณ 2 พันรายก็ตาม
แต่ผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนประมาณ 2 พันราย ต้องสิ้นเนื้อประดาตัวกับ SMK และไม่มีโอกาสแก้ตัวเสียด้วย