ไดนามิก ยีลด์ (Dynamic Yield) บริษัทในเครือของมาสเตอร์การ์ด เปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่สำหรับลูกค้าของมาสเตอร์การ์ดในชื่อ Element ซึ่งทำงานเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการ Experience OS ของไดนามิก ยีลด์ ตอบสนองความต้องการในบริการแบบเฉพาะบุคคล หรือ Personalization ของผู้บริโภคที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยโมเดลการวิเคราะห์และคาดการณ์ล่วงหน้า ช่วยให้ลูกค้าในทุกกลุ่มธุรกิจทั้งค้าปลีก แบรนด์สินค้าและบริการ ธนาคาร และอื่นๆ สามารถนำเสนอบริการที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าเฉพาะราย ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลได้ในทุกช่องทาง
น.ส.ราช เซชาดรี ประธานคณะกรรมการบริหารของธุรกิจ Data & Services มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า นวัตกรรมจากความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้มาสเตอร์การ์ดสนับสนุนให้ลูกค้ากลุ่มธุรกิจสามารถตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพและได้รับผลลัพธ์ที่ดีกว่า อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและผลลัพธ์เชิงบวกจากการบริการของเราอีกด้วย
ทั้งนี้ แอปพลิเคชัน Element จะเชื่อมโยงบริการต่างๆ ของมาสเตอร์การ์ดที่ลูกค้าเลือกภายใน Experience OS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการของบริษัทที่จะคอยช่วยจัดระเบียบแอปพลิเคชันซึ่งอยู่ใน framework หลักที่มีรูปแบบโมดูลาร์และสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ วิธีการแบบรวมศูนย์นี้จะช่วยให้ลูกค้าของมาสเตอร์การ์ดสามารถออกแบบโปรแกรมโดยผสานความสามารถของ ไดนามิก ยีลด์ และมาสเตอร์การ์ด เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ด้วยความสามารถของ Element ลูกค้าที่เป็นสมาชิกจะได้รับประโยชน์ดังต่อไปนี้
เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกด้านการใช้จ่ายตามพื้นที่ซึ่งรวบรวมมาจากข้อมูลการทำธุรกรรมแบบไม่ระบุชื่อ
ใช้เทคนิคการคาดการณ์ของมาสเตอร์การ์ด เพื่อช่วยในการออกแบบข้อเสนอ ผลิตภัณฑ์ และเนื้อหาที่เหมาะสมสำหรับผู้ถือบัตร ผ่านทางแพลตฟอร์มธนาคารส่วนบุคคล
ใช้ Mastercard SpendingPulse™ เพื่อให้ทราบถึงแนวโน้มการใช้จ่ายในระดับภูมิภาคและจำแนกตัวชี้วัดของเศรษฐกิจระดับมหภาคของธุรกิจค้าปลีก ตลอดจนเสริมศักยภาพของการให้บริการแบบ Personalization ในระดับท้องถิ่น
จำแนกความสัมพันธ์ของผลิตภัณฑ์ พื้นที่ และคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ด้วย Market Basket Analyzer และใช้ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ในการออกแบบบริการแบบ Personalization อย่างชาญฉลาด
“การนำข้อมูลเชิงลึกจากอีโคซิสเต็มบริการของมาสเตอร์การ์ดมาสู่ Experience OS คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญมาก นับตั้งแต่บริการทางการเงินมาสู่ธุรกิจร้านอาหารประเภทจานด่วน (QSR) ไปจนถึงธุรกิจค้าปลีก วันนี้บริษัทต่างๆ สามารถสร้างประสบการณ์การให้บริการแบบ Hyper-personalize แก่ลูกค้าในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง” โอริ บาวเออร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไดนามิก ยีลด์ กล่าว “ยกตัวอย่างเช่น เมื่อพิจารณาจากการใช้จ่ายของลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์หนึ่ง คุณจะสามารถวิเคราะห์ได้ว่าพฤติกรรมการใช้จ่ายในสินค้าประเภทนี้จะขับเคลื่อนไปสู่การใช้งานสินค้าประเภทอื่นๆ ได้อย่างไร หลังจากนั้นจึงนำเสนอการบริการหรือสินค้าอื่นๆ ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ in-app โดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้น ซึ่งกระบวนการนี้ยังสามารถนำไปใช้ได้ในธุรกิจทุกประเภท”