หุ้นไทยปิดร่วง -6.32 จุด โบรกฯ เผยดัชนีปรับลงรับเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลง จากภาคการส่งออกยังหดตัว อีกทั้งยังกังวลในด้านราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นซึ่งกระทบต้นทุนธุรกิจ ประเมินภาพรวมแนวโน้มการลงทุนพรุ่งนี้ คาดแกว่งตัวไซด์เวย์ มองแนวต้านที่ 1,610 จุด และแนวรับที่ 1,585 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 4 เมษายน 2566 ปรับตัวลดลง 36.32 จุด หรือ -0.39% โดยปิดตลาดที่ 1,594.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,628.88 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีปรับตัวเคลื่อนไหวในทิศทางขาลงทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุด 1,603.79 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,591.20 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 448 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 510 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,025 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,373.49 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +437.68 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,348.71 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -462.47 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,936.31 ล้านบาท ปิดที่ 160.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
2.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,609.82 ล้านบาท ปิดที่ 30.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,578.50 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
4.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,316.26 ล้านบาท ปิดที่ 71.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
5.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,158.95 ล้านบาท ปิดที่ 61.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่ 160.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ0.63%
2.BH ปิดที่ 227.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ0.44%
3.BDMS ปิดที่ 30.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาทหรือ2.52%
4.FORTH ปิดที่32.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาทหรือ2.38%
5.CPN ปิดที่69.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาทหรือ1.09%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่964.00 บาท ลดลง 6.00 บาท หรือ0.62%
2.CBG ปิดที่ 89.25 บาท ลดลง 3.25 บาท หรือ3.51%
3.SCC ปิดที่315.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ0.63%
4.PTTGC ปิดที่44.75 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ3.24%
5.KBANK ปิดที่131.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ1.13%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,152.91 จุด ลดลง -8.42 จุด หรือ -0.39% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 961.27 จุด ลดลง -3.56 จุด หรือ -0.37% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 536.39 จุด ลดลง -5.25 จุด หรือ -0.97%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลง และมูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง จากปัจจัยกดดันหลักแนวโน้มของเศรษฐกิจชะลอตัวหลังภาคส่งออกยังหดตัวต่อเนื่อง กระทบต่อภาพการเติบโตของเศรษฐกิจ อีกทั้งปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นกลับมากระทบต่อต้นทุนของธุรกิจในบางกลุ่ม แม้เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มพลังงานต้นน้ำ
อย่างไรก็ตาม ประเด็นหลักคือยังไร้ปัจจัยหนุนอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าจะมีประเด็นการเลือกตั้งแต่ตลาดรับรู้ไปมากแล้ว ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวได้ดี
ขณะที่แนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่ายังแกว่งไซด์เวย์ยังคงไร้ปัจจัยใหม่ ประกอบกับเข้าใกล้ช่วงวันหยุด ทำให้นักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามเป็นการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือน มี.ค.ของสหรัฐในปลายสัปดาห์นี้ โดยมองแนวต้านที่ 1,610 จุด และแนวรับที่ 1,585 จุด