สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น แจงเหตุส่งงบช้าเพราะเปลี่ยนผู้สอบบัญชี จากบริษัทดีลอยท์ เป็นบริษัทไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส พร้อมตรวจนับสินค้าคงคลังเรียบร้อย และอยู่ในขั้นตอนการคำนวณต้นทุน คาดส่งงบได้ภายใน 21 เมษายนนี้
บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK แจ้งว่าได้ทำหนังสือลงวันที่ 31 มีนาคม ถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งถึงความจำเป็นต้องนำส่งงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ล่าช้ากว่าที่กฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ เนื่องจากข้อมูลบางส่วนอยู่ระหว่างการดำเนินงานของบริษัท และการตรวจสอบของผู้สอบบัญชี คาดว่าจะนำส่งงบการเงินดังกล่าวได้ภายในวันที่ 21 เมษายนนี้
ก่อนหน้านี้ ตลท.พักการซื้อขายหุ้น บมจ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น ชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม บมจ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่นได้ชี้แจงถึงสาเหตุการปิดงบฯล่าช้าเนื่องจากมีการเปลี่ยนวิธีการนับสินค้าคงคลัง โดยเป็นปีแรกที่บริษัทเปลี่ยนผู้สอบบัญชีจากบริษัทดีลอยท์ เป็นบริษัทไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส
โดยจากรายงานทางบริษัทให้ข้อมูลว่า ในประเด็นการตรวจนับสินค้าคงคลังนั้นได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการคำนวณต้นทุนซึ่งเป็นเรื่องทางเทคนิค
บมจ.สตาร์คฯ ยังได้ทำหนังสือไปยังผู้บริหาร ตลท.ถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม มีมติให้แต่งตั้งนายวรุณ อัตถากร ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ (Chief Executive Officer) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่บริษัทดำเนินการสรรหาตามที่แจ้งไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมแต่งตั้งนายกิตติพัฒน์ อินทรเกษตร เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินหรือซีเอฟโอ (Chief Financial Officer)
จากรายงานกล่าวอีกว่า นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ซึ่งแต่เดิมควบ 2 ตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปัจจุบันจะยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ บมจ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น
สำหรับประวัตินายวรุณ อัตถากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จบการศึกษาปริญญาโท หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการเงิน จากมหาวิทยาลัยเซ็นทรัลโฮกลาโฮมา เอ็ดมอนด์ (University of Central Oklahoma Edmond) ประเทศสหรัฐอเมริกา และปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความรู้ด้านวิศวกรรมอุตสาหการ และมีประสบการณ์ในฐานะที่ปรึกษาและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน และมีประสบการณ์ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีพี ไพร์ม ซึ่งเป็นบริษัทมหาชน และบริษัทบิซซินเนอร์ยี
โดยนายวรุณ มีประสบการณ์ทำงานในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น วาณิชธนกิจ ฟาสต์มูฟวิ่ง คอนซัมเมอร์ กู้ดส์ อาหารและเครื่องดื่ม และการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์
ด้านประวัตินายกิตติพัฒน์ อินทรเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน จบการศึกษาปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (การจัดการ) โครงการปริญญาโทสำหรับผู้บริหารเอ็กเซ็คคลูซีฟ เอ็มบีเอ รุ่นที่ 8 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาตรีบริหารธุรกิจบัณฑิต (การบัญชี) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
โดยนายกิตติพัฒน์ มีความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารจัดการทางด้านการเงินและการลงทุน มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีในตำแหน่งที่ปรึกษา กรรมการ กรรมการตรวจสอบในบริษัทชั้นนำหลายแห่ง เช่น บริษัท เวชธานี จากัด (มหาชน) และบริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ จากัด (มหาชน)
ทางบริษัทเล็งเห็นว่าผู้บริหารทั้ง 2 ท่าน นายวรุณ และนายกิตติพัฒน์ ถือเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจที่จะมานำทัพให้บริษัทเติบโตไปข้างหน้า ซึ่งวัตถุประสงค์การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของ บมจ.สตาร์คฯ มีอยู่ 3 เป้าหมาย เป้าหมายแรก เพื่อบริหารกิจการปัจจุบันเพื่อให้เป็นไปตามแผน วัตถุประสงค์ ข้อบังคับ รวมถึงการดำเนินงานตามนโยบาย เป้าหมายที่สอง เพื่อส่งงบการเงินตามกำหนด วันที่ 21 เมษายน และบริหารจัดการทางด้านการเงินและการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป้าหมายสุดท้ายเพื่อพิจารณาแผนการลงทุนที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ
