xs
xsm
sm
md
lg

‘ศรีเทพไทยพัฒนา’ คัมแบ็กรุกอสังหาฯ โรดแมป 5 ปีกวาดรายได้ทะลุพันล้าน จ่อพัฒนาบ้านแพง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายณัษฐพงษ์ วงษ์สัจจา
“ศรีเทพไทยพัฒนา” ผู้นำอสังหาฯ ที่มีมาร์เกตแชร์อันดับ 1 ใน จ.ฉะเชิงเทรา กางแผนโรดแมปธุรกิจ 5 ปี ตั้งเป้ากวาดรายได้ปี 2570 ที่ 1,000 ล้านบาท ประกาศชัดยอดขายอันดับ 1 กวาดรายได้ปีที่แล้ว 600 ล้านบาท พร้อมชูกลยุทธ์บริหารสต๊อกจบโครงการเร็ว พร้อมเขย่าองค์กรแข่งขันคู่แข่งเต็มสูบ เตรียมเข้าสู่ปีที่ 30 อย่างยั่งยืน

นายณัษฐพงษ์ วงษ์สัจจา กรรมการผู้จัดการ บริษัทศรีเทพไทยพัฒนา จำกัด ผู้เป็นแม่ทัพของศรีเทพไทยพัฒนา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงการรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า บริษัทได้เริ่มก่อตั้งและดำเนินธุรกิจอสังหาฯ ตั้งแต่ปี 2537 โดยเลือกทำเลบางนาในการพัฒนาโครงการ โดยทางบริษัทแม่คือ กลุ่มบริษัทศรีเทพไทย มีแนวทางที่ต้องการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมีคุณภาพให้ผู้ซื้อ ซึ่งโครงการแรกที่เป็นจุดกำเนิด คือ โครงการ ศรีเทพไทย บ้านสวนบางนา บ้านบีโอไอ รูปแบบทาวน์เฮาส์ ในระดับราคา 3.99 แสนบาท ลูกค้าให้การตอบรับอย่างมาก แต่มาประสบกับวิกฤตในปี 2540 ทำให้โครงการ ศรีเทพไทย บ้านสวนบางนา ต้องหยุดมาถึง 3 ปี

ซึ่งเราได้พยายามฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ จากเศรษฐกิจหลายเหตุการณ์ ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการแรก ศรีเทพไทย บ้านสวนบางนา อีกครั้ง ซึ่งในปี 2544 เป็นยุคฟองสบู่ ธุรกิจอสังหาฯ ซบเซา หากแต่ศรีเทพไทย กลับได้รับผลตอบรับดี ทีมงานจึงร่วมกันคิด วิเคราะห์ พัฒนาธุรกิจ หาจุดอ่อน จุดแข็งที่นำพาให้เราได้รับความสำเร็จ โดยมีพันธกิจในการรันธุรกิจ มุ่งแก้ใน 5 ประเด็นใหญ่ เริ่มจากต้องแก้ปัญหาเรื่องหนี้ของโครงการ มีลูกค้ากว่า 100 รายเร่งรัดให้โอนบ้านพร้อมกับให้คืนเงิน บ้านที่ไม่ได้ก่อสร้างต่อจะมีสภาพทรุดโทรม ส่งผลให้ขาดความน่าเชื่อ และเกิดปัญหาสภาพคล่องในการดำเนินโครงการต่อ

"ด้วยเคยทำงานด้านสินเชื่อในธนาคารมาก่อน เข้าใจในกระบวนการ เริ่มเจรจากับธนาคาร (เจ้าหนี้เดิม) ซึ่งอนุมัติวงเงินเพิ่มเติม ในก้อนแรก 10 ล้านบาท นำมาใช้ปรับปรุงและก่อสร้าง โอนให้ลูกค้า นำรายได้มาทำในเฟสถัดไป ทำให้โครงการจบส่วนที่เหลืออีก 700 ยูนิต รวมแล้วหนี้ 200 ล้านบาท ใช้เวลาเคลียร์หมดภายใน 5 ปี ทุกอย่างเป็นไปตามเป้าในการแก้ปัญหา 5 ข้อที่กล่าวไป รวมถึงการไปรันโครงการต่อที่หาดใหญ่ให้สำเร็จ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าทีมงานทุกคนทุ่มเทช่วยกันแก้ปัญหา สามารถทำโครงการอสังหาฯ ได้ และมีประสบการณ์มากขึ้น"

และจากวันนั้น ทางบริษัทฯ ได้กำหนดเป้าการเติบโตและเดินหน้าลงทุนผ่านการพัฒนาโครงการมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน 7 โครงการ เริ่มจาก 1.โครงการ ศรีเทพไทย บ้านสวนบางนา 2.โครงการศรีเทพไทยพาร์ควิลล์ 3.โครงการรติมาวิลล่า หาดใหญ่ 4.โครงการรติมาวิลล่า แอด หาดใหญ่ ซึ่งหลังจากบุก 2 โครงการที่สงขลาแล้ว จึงกลับมาพัฒนา 5.โครงการศรีเทพไทย พาร์ควิลล์ สิริโสธร เป็นโครงการแรกที่ใช้อิฐผนังขาว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากประเทศเยอรมนี มาใช้ในการก่อสร้างบ้านเป็นรายแรก

ปัจจุบันเปิดขายอยู่ 2 โครงการ คือ 6.โครงการเทพสิริวิลล่า แบรนด์บ้านเดี่ยว ราคา 3 ล้านบาทบวก 7.โครงการศรีเทพวิลเลจ บางปะกง บ้านแฝดและทาวน์โฮม ราคา 2.1 ล้านบาทบวก รวมแล้วทำให้เรามีบ้านเกือบ 3,000 หลัง มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ที่ส่งมอบบ้านให้แก่ลูกค้าได้มีที่อยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ

ไม่เร่งเปิดตัวโครงการมาก เน้นคุณภาพบ้าน

นายณัษฐพงษ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการทำธุรกิจมาถึง 29 ปี เน้นปฏิสัมพันธ์ตรงกับลูกค้าโดยตรง ไม่เน้นเปิดตัวจำนวนมาก ระมัดระวังในการลงทุน จึงคล้ายกับการทำธุรกิจแบบเงียบๆ แต่ใส่ใจในคุณภาพของที่พักอาศัยให้แก่ลูกค้า จึงเป็นที่มาของชื่อเสียง ซึ่งเป็นการแนะนำโดยลูกค้าถึงลูกค้า ซึ่งมียอดการบอกต่อถึง 20-30%

"บริษัทจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 ปี เชื่อมั่นว่า ประสบการณ์ในการทำธุรกิจมายาวนานจะพัฒนาไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง พร้อมยกระดับการนำเทคฯ มาใช้ในการก่อสร้าง สะท้อนถึง DNA ในเรื่องคุณภาพบ้าน และไม่หยุดนิ่งพัฒนาหาช่องทางการสื่อสารทางการตลาดที่ส่งถึงกลุ่มลูกค้าในทุกระดับตลอดเวลา"


ซึ่งในปีนี้บริษัทมีการปรับองค์กรหลายด้านเพื่อเตรียมความพร้อมแข่งขันกับคู่แข่งในพื้นที่ได้เต็มที่ เน้นกลยุทธ์บริหารสต๊อกให้จบโครงการเร็ว โดยแผนระยะ 5 ปี เป้ารายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 10-15% หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทภายในปี 2570 ซึ่งในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทกวาดรายได้ 600 ล้านบาท ยอดขายอันดับหนึ่งในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีส่วนแบ่งตลาด 30% เทียบกับคู่แข่งรายใหญ่ในพื้นที่ทั้งหมด 8 บริษัท ซึ่งในปีนี้ได้วางเป้ารายได้ไว้ที่ 639 ล้านบาท

โดยในปีนี้จะเปิดตัว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการศรีเทพวิลเลจ ห้วยโป่ง ที่ จ.ระยอง มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท รูปแบบบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว 1 ชั้น และ 2 ชั้น เริ่มต้น 2.5 ล้านบาท จำนวน 282 หลัง ทั้งหมด 40 ไร่ เริ่มเปิดตัวอย่างทางการเดือนเมษายนนี้ และโครงการศรีเทพวิลเลจ นีโอ บางปะกง ทาวน์โฮม เริ่มต้น 2.1 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาท

"บางปีเราอาจจะเปิด 1 โครงการ หรือ 2 โครงการ แล้วแต่สถานการณ์ แต่ด้วยรวมในแต่ละปีจะต้องมีโครงการที่บริหารอยู่ประมาณ 5 โครงการ เพื่อให้ธุรกิจมีสเกลที่ใหญ่ เช่น 1 โครงการใช้เนื้อที่ 40 ไร่ พัฒนาได้ 200 ยูนิต มูลค่าขาย 600 ล้านบาท มียอดขายรองรับ 2,500 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ในอนาคตอาจจะพัฒนาบ้านแพง หากได้โลเกชันดีๆ"

เปิดพอร์ต "แลนด์แบงก์" เกาะ EEC


นายณัษฐพงษ์ กล่าวถึงที่ดินสะสม (แลนด์แบงก์) เฉพาะของบริษัทศรีเทพไทยพัฒนาฯ ว่า กระจายอยู่ในหลายทำเลประมาณ 3-4 แปลง เช่น เนื้อที่ 200 ไร่ ที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี 52 ไร่ ที่ ซ.คลองตันพิกุล 30 ไร่ ที่ จ.ระยอง และที่หาดใหญ่ จ.สงขา จำนวน 16 ไร่ ซึ่งเดิมมีแผนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มเติม แต่ต้องชะลอออกไปก่อนเนื่องจากตลาดอสังหาฯ ไม่เติบโตเท่าที่ควร ประกอบกับราคาที่ดินในหาดใหญ่ปรับสูงขึ้นมาก บริษัทจึงมีแผนจะขายที่ดินแปลงดังกล่าวออกไป ทั้งนี้ บริษัทฯ เข้ามาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในหาดใหญ่ ตั้งแต่ปี 2553-2560 และได้โอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าทั้งหมด 8 โครงการ

"มองตลาดคอนโดฯ เราก็มอง เพียงแต่ตลาดในเมืองยอดขายช้า ส่วนในทำเลฉะเชิงเทรา แนวราบยังได้รับความนิยมอยู่"


กำลังโหลดความคิดเห็น