xs
xsm
sm
md
lg

ฟิทช์จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ชุดใหม่ของ AIS ที่ระดับ ‘AA+(tha)’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) หุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิชุดใหม่ จำนวนไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ที่ ‘AA+(tha)’ โดยเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะนำไปใช้สำหรับชำระคืนเงินกู้ และใช้สำหรับเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจและค่าใช้จ่ายในการลงทุน หุ้นกู้ดังกล่าวมีสถานะเท่าเทียมกับหนี้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิของ AIS และได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทที่ ‘AA+(tha)’

อันดับเครดิตของ AIS สะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่ง จากการที่บริษัทเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ฟิทช์คาดว่า AIS จะยังคงมีกำไรที่แข็งแกร่ง และสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด และอัตราส่วนหนี้สินให้สอดคล้องกับอันดับเครดิตปัจจุบันได้อย่างต่อเนื่อง

การฟื้นตัวของรายได้ : ฟิทช์คาดว่า AIS จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของสภาวะเศรษฐกิจไทย จากที่ค่อนข้างอ่อนแอในปี 2563-2565 ฟิทช์คาดว่าผลผลิตมวลรวมประชาชาติของไทยจะเติบโตร้อยละ 4.5 ในปี 2566 กิจกรรมทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้น และการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวน่าจะสนับสนุนให้รายได้ของ AIS เติบโตในปี 2566 ฟิทช์คาดว่ารายได้ของ AIS จะเติบโตในอัตราประมาณร้อยละ 3-4 ในปี 2566 (ปี 2565 เติบโตร้อยละ 1.6)

อัตราส่วนกำไรต่อรายได้ที่ลดลง : รายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อเลขหมายต่อเดือน (ARPU) ที่ลดลงน่าจะกดดันกำไรของ AIS ในปี 2566 ฟิทช์คาดว่ารายได้ของ AIS จะเพิ่มขึ้นในปี 2566 แต่ EBITDA จะยังคงอยู่ที่ประมาณ 7.4-7.5 หมื่นล้านบาท (ปี 2566 อยู่ที่ 7.5 หมื่นล้านบาท) ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่นที่น่าจะยังคงเสนอแพกเกจที่มีราคาถูก สำหรับผู้ใช้บริการแบบชำระเงินล่วงหน้า (Prepaid) อย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 2566 แม้ว่าจะมีการควบรวมกิจการของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ TRUE และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ฟิทช์คาดว่าผู้ให้บริการจะพิจารณาการปรับเพิ่มราคาอย่างระมัดระวัง เนื่องจากอาจจะส่งผลกระทบต่อการสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาด ในช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

การขยายธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง : ฟิทช์มองว่า การเข้าซื้อกิจการบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ AIS ในการรักษาความสามารถในการแข่งขัน และการเติบโตของกำไรในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ท่ามกลางธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่มีการเติบโตต่ำ ฟิทช์คาดว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 18 หลังจากการเข้าซื้อกิจการแล้วเสร็จ จากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 8 การเข้าซื้อกิจการดังกล่าวจะทำให้สถานะทางการตลาดของ AIS ปรับตัวดีขึ้น และกลายเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงรายใหญ่อันดับที่ 2 ในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นเป็นประมาณร้อยละ 35 จากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 16 ในปี 2565 ซึ่งจะใกล้เคียงกับส่วนแบ่งทางการตลาดของผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุด ซึ่งได้แก่ TRUE ที่ประมาณร้อยละ 38

ความสามารถในการรองรับการลงทุน : ฟิทช์คาดว่ากระแสเงินสดสุทธิ (Free Cash Flow) ของ AIS จะยังคงเป็นบวกในปี 2566 ที่ประมาณ 3 พันล้านบาท เนื่องจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานน่าจะยังคงเพียงพอรองรับค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ค่าใช้จ่ายเพื่อชำระค่าคลื่นความถี่จำนวนประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท และเงินปันผลจำนวนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ฟิทช์เชื่อว่าอัตราส่วนหนี้สินที่อยู่ในระดับต่ำโดยมี อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Net Leverage) ที่ 1 เท่า ณ สิ้นปี 2565 จะทำให้บริษัทมีความสามารถในการรองรับการลงทุน และค่าใช้จ่ายเพื่อจัดหาคลื่นความถี่เพิ่มเติม ที่อาจเกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าโดยไม่กระทบต่ออันดับเครดิตได้

แผนการเข้าซื้อกิจการบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด ซึ่งจะใช้การกู้ยืมเงินเป็นแหล่งเงินทุน จะทำให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิของ AIS เพิ่มขึ้นประมาณ 0.5 เท่า โดยที่ยังไม่ได้พิจารณารวมกำไรจากสินทรัพย์ที่เข้าซื้อ ฟิทช์คาดว่า EBITDA Net Leverage จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 1.5 เท่าหลังจากการเข้าซื้อกิจการแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 จาก 1 เท่า ณ สิ้นปี 2565 แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 1.8 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ฟิทช์อาจพิจารณาปรับลดอันดับเครดิต ถึงแม้ว่าความสามารถในการรองรับหนี้สินเพิ่มเติมโดยไม่กระทบอันดับเครดิตจะปรับตัวลดลง
กำลังโหลดความคิดเห็น