xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯ ปลื้ม K PLUS โตก้าวกระโดด ยอดธุรกรรม 10 ล้านล้านบาท-ออนไลน์แตะ 98%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - กสิกรฯ เปิดตัวเลขการใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัลปี 65 เติบโตอย่างก้าวกระโดด มีจำนวนผู้สมัครใช้งานแอป K PLUS กว่า 2 ล้านคน โดยมากกว่าครึ่งเป็นลูกค้าที่ใช้บริการธนาคารกสิกรไทยเป็นครั้งแรก ขณะที่สัดส่วนธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์คิดเป็น 98% ของธุรกรรมรวม ตอกย้ำธนาคารดิจิทัลอันดับหนึ่งของไทย ระบุส่วนหนึ่งเป็นผลจากกลยุทธ์ผสานความเป็น "ชาเลนเจอร์แบงก์" เข้ามาในองค์กร เพื่อเปิดกว้างให้ลูกค้ากลุ่มใหม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคารได้ง่ายขึ้น พร้อมหนุน LINE BK ช่วยดึงกลุ่มอาชีพอิสระเข้าสู่ระบบ


น.ส.ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย (KBank) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาแอปพลิเคชัน K PLUS ของธนาคารมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจำนวนผู้ใช้งานและปริมาณธุรกรรม โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา แอป K PLUS มีจำนวนผู้สมัครใช้งานกว่า 2 ล้านราย และในจำนวนดังกล่าวมีมากกว่า 1 ล้านราย เพิ่งใช้บริการธนาคารกสิกรไทยเป็นครั้งแรก มียอดการทำธุรกรรมผ่าน K PLUS เติบโต 53% และมียอดธุรกรรมผ่านแอป K PLUS แตะ 10 ล้านล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ของธนาคารเพิ่มขึ้นแตะระดับ 98% ของยอดธุรกรรมรวม ซึ่งความนิยมแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นในระดับสูงนี้ ทำให้ธนาคารมีความมุ่งมั่นในการเดินหน้าสู่ธนาคารดิจิทัลอย่างเต็มภาคภูมิต่อไป

ทั้งนี้ แพลตฟอร์มดิจิทัลของธนาคารกสิกรไทยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพียงแค่ 6 เดือนหลังประกาศแผนผสานความเป็น "ชาเลนเจอร์แบงก์" เข้ามาในองค์กร เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคารได้มากขึ้น โดยนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้เพื่อให้ขั้นตอนต่างๆ เรียบง่ายขึ้น ซึ่งผลจากการเติบโตของธุรกรรมออนไลน์ดังกล่าวทำให้ธนาคารกสิกรไทยสร้างสถิติใหม่ โดยเป็นครั้งแรกที่ยอดเงินโอนผ่านแอป K PLUS มากกว่ายอดเงินโอนผ่านช่องทางอื่นๆ ทั้งหมดของธนาคารรวมกัน ทั้งการทำธุรกรรมที่สาขาธนาคาร เครื่องทำรายการอิเล็กทรอนิกส์ และตัวแทนธนาคาร นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยีของเรา ทำให้คนจำนวนมากขึ้นได้รับประโยชน์จากบริการธนาคาร สะท้อนได้จากในแต่ละชั่วโมงมีจำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 1 ล้านรายการต่อชั่วโมง

"จากจำนวนผู้ใช้บริการและจำนวนธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นทำให้ธนาคารมีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ตามไปด้วย โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีที่จะต้องก้าวล้ำไปข้างหน้าอยู่เสมอ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการธนาคารได้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พร้อมกันนั้น ธนาคารยังให้ความสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยโดยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการป้องกันและตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติควบคู่ไปกับการใช้งานที่สะดวกและเหมาะสมกับลูกค้าทุกกลุ่มของธนาคารอีกด้วย"

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มออนไลน์ของธนาคารกสิกรไทยยังมีส่วนช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ ด้วยการมอบต้นทุนทางด้านการเงินที่ต่ำกว่า โดยเป็นธนาคารเดียวในประเทศไทยที่ไม่หักค่าธรรมเนียมการโอนจากธนาคารตัวกลาง สำหรับการโอนเงินจากประเทศไทยไป 32 ประเทศคู่ค้า เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศให้ผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งสอดคล้องวิสัยทัศน์ของธนาคารที่มองไปไกลเกินกว่าขอบเขตประเทศไทย โดยเป้าหมายของเราอยู่ที่การเป็นผู้นำการให้บริการธนาคารดิจิทัลที่ดีที่สุดระดับภูมิภาค

น.ส.ขัตติยา กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ ในเดือนกรกฎาคมปี 2565 ธนาคารกสิกรไทยได้ประกาศเดินหน้าโครงการเชิงกลยุทธ์ที่เรียกว่าการผสานความเป็น "ชาเลนเจอร์แบงก์" เข้ามาในองค์กร ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะขยายการเข้าถึงสินเชื่อและบริการต่างๆ ของธนาคารให้คนไทยที่ยังเข้าไม่ถึงบริการธนาคารหรือกลุ่มที่เข้าถึงได้ยากซึ่งมีอยู่ประมาณ 30 ล้านคน ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามาโดยเฉพาะเพื่อช่วยเหลือธุรกิจขนาดย่อมและผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือไม่มีรายได้ประจำ ให้มีโอกาสได้รับการประเมินจากขีดความสามารถและความตั้งใจในการชำระคืนเงินกู้อย่างรอบด้านมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการลดกระบวนการที่ขาดความคล่องตัว เพื่อให้บริการที่รวดเร็วกว่า ใช้งานง่ายกว่า และสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ตลอดเวลา

"กลยุทธ์นี้เป็นการหลอมรวมดีเอ็นเอของความเป็นชาเลนเจอร์แบงก์เข้าไปในแก่นของธนาคารกสิกรไทยซึ่งประสบความสำเร็จอยู่แล้วในฐานะธนาคารในยุคปัจจุบันที่ได้รับการยอมรับเชื่อถือในความสามารถในการตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ภายใต้โครงการดังกล่าวนี้ ธนาคารกสิกรไทยได้จัดสรรงบประมาณ 22,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนด้านเทคโนโลยีในช่วงปี 2565-2567 ดังนั้น จากนี้ไป "ชาเลนเจอร์แบงก์" จะเป็นปรากฏการณ์ดิสรัปชันของวงการธนาคาร ที่มาท้าทายธนาคารหลักต่างๆ ในหลายประเทศ"


หนุน LINE BK ดึงกลุ่มคนตัวเล็กเข้าระบบ

สำหรับความร่วมมือกับ บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด (LINE BK) นั้น เป็นการจับมือกันระหว่างธนาคารกับ LINE เพื่อให้บริการธนาคารผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยในช่วงปี 2565 มีการเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน มีผู้ใช้บริการรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,400,000 ราย และ ณ สิ้นปี 2565 มียอดสินเชื่อปล่อยกู้ผ่าน LINE BK กว่า 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการให้กู้ยืมแก่ลูกค้าที่ไม่มีรายได้ประจำหรือไม่มีเงินเดือนประจำ เช่น คนทำงานอิสระและผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยอื่นๆ

"เราให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มประกอบอาชีพอิสระ มักจะไม่มีรายได้ประจำหรือไม่มีสลิปเงินเดือน ทำให้มีความยากลำบากในการได้รับอนุมัติเงินกู้จากธนาคาร เพื่อที่จะเอามาช่วยเหลือตัวเองในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่มาเป็นครั้งเป็นคราว และบ่อยครั้ง ทำให้ต้องหันไปหาเงินกู้นอกระบบ แต่ในส่วนของการขอเงินกู้จาก LINE BK ไม่ต้องใช้เอกสารทางการเงิน ใช้ระบบ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ข้อมูลจากหลายๆ ด้านมาพิจารณา เช่น ข้อมูลพฤติกรรมจากบริการที่เกี่ยวข้องของ LINE ซึ่งได้รับอนุญาตจากผู้สมัครขอสินเชื่อก่อน เพื่อประเมินความสามารถและความตั้งใจในการชำระคืนเงินกู้ของผู้กู้ ทำให้คนเหล่านี้มีโอกาสได้รับเงินกู้และเข้าสู่ระบบได้มากขึ้น" น.ส.ขัตติยา กล่าว

อนึ่ง LINE BK นับเป็นผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการธนาคารผ่านโซเชียลมีเดียเพียงรายเดียวของไทย มีบทบาทสำคัญในการทำให้เป้าหมายของธนาคารกสิกรไทยในการผสานความเป็นชาเลนเจอร์แบงก์เข้ามาในองค์กรประสบความสำเร็จ เนื่องจาก LINE BK ช่วยให้คนไทยที่ยังเข้าไม่ถึงบริการธนาคารหรือเข้าถึงได้ยาก สามารถเข้าถึงบริการธนาคารได้ แม้จะเป็นผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคารก็สามารถสมัครขอสินเชื่อผ่าน LINE BK ได้ โดยจะทราบผลการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อภายใน 24 ชั่วโมง บริการนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ และกลุ่มร้านค้าขายขนาดเล็ก อีกทั้งยังเป็นก้าวแรกที่นำคนเหล่านี้เข้าสู่ระบบธนาคาร ทำให้มีประวัติเครดิต ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการขยับขยายกิจการในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น