กลายเป็นประเด็นเผ็ดร้อนล่าสุดในสื่อสังคมออนไลน์ และชุมชนนักพัฒนาซอร์ฟแวร์ เมื่อมีการโพสต์ขายข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนไทย จำนวนมากกว่า 55 ล้านรายชื่อ โดยอ้างแหล่งที่มาของข้อมูลดังกล่าวนั้นจากหน่วยงานของรัฐ ซึ่งสะท้อนความหละหลวมของระบบการจัดเก็บข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ หรือเกิดการทุจริตคอรัปชั่นของบุคลากรภาครัฐที่เข้าถึงฐานข้อมูลส่วนบุคคลนั้น แล้วแอบลักลอบนำออกมาขาย
จากการเปิดเผยของเพจ ExploitWareLabs ได้โพสต์ถึงกรณีการประกาศขายข้อมูลของแฮกเกอร์รายหนึ่งซึ่งใช้นามแฝงว่า ‘9Near’ ในเว็บบอร์ด BreachForums โดยเนื้อหาดังกล่าวนั้นระบุถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคนไทยกว่า 55 ล้านคน ทั้งชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ โดยการประกาศซื้อขายดังกล่าวนั้นจะรับในรูปของสกุลเงินคริปโตทั้งบิทคอยน์ และ Monero (XMR) โดยแนบอีเมลแอดเดรสให้ติดต่อกลับไป แบบเข้ารหัสความปลอดภัยสูง Proton Mail เพื่อการเจรจาต่อรองราคาอีกด้วย โดยมีการให้เครดิตถึงแหล่งข้อมูลที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวนั้นคือหน่วยงานรัฐ หรือ Somewhere in government
ขณะที่รูปโปรไฟล์ของแฮกเกอร์คนดังกล่าวนั้นใช้สัญลักษณ์สีส้มสามเหลี่ยมกลับหัว ซึ่งคล้ายกับพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง โดยมีข้อความในโลโก้โปรไฟล์นั้นว่า "ก้าวใกล้"
อย่างไรก็ดี จากการพูดคุยกับชุมชนนักพัฒนาซอร์ฟแวร์หรือ Developer ถึงแหล่งข้อมูลของ เว็บไซต์ BreachForums พบว่าเว็บดังกล่าวเป็นแหล่งชุมนุมของเหล่าแฮกเกอร์หลากหลายประเภททั้ง แฮกเกอร์หมวกขาว (White hat Hacker) แฮกเกอร์หมวกดำ (Black hat hacker) แฮกเกอร์หมวกสีเทา (Gray hat hacker) แฮ็กเกอร์หมวกแดง (Red Hat Hacker) โดยจะเน้นประเด็นการพูดคุยปรึกษาและเทคนิคด้าน Cyber Attack หรืออาชญากรรมไซเบอร์ระบบคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ในพื้นที่ดังกล่าวนี้ยังเป็นเสมือนตลาดแหล่งซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล หรือความลับทางธุรกิจที่ได้มาจากบริษัทหรือหน่วยงานรัฐในประเทศต่าง ๆ อีกด้วย
ทั้งนี้จากจำนวนข้อมูลดังกล่าวของประชาชนชาวไทยประมาณ 70 ล้านคน โดยมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลไปแล้วกว่า 55 ล้านคน ดังนั้นเท่ากับว่าคิดเป็นสัดส่วนถึง 78.57% ของจำนวนประชากร 70 ล้านคนของไทย
อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้นายเอกรัฐ ตะเคียนนุช หรือ อาร์ท ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ PPTV36HD ได้นำเสนอประเด็นเว็บพนันออนไลน์ ในช่วงข่าวค่ำลึกไม่ลับ ทั้งในส่วนของ 4 พี่น้อง บ.ใบไม้ และ เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ของสารวัตรซัว โดยมีนายตำรวจระดับนายพลตำรวจอำนวยความสะดวกควบคุมดูแล ซึ่งจากการให้ข้อมูลของแหล่งข่าวซึ่งเคยเป็นแอดมินของเว็บพนันดังกล่าวระบุว่ามีการเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐด้านการบังคับใช้กฏหมายหน่วยงานหนึ่ง สามารถตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวของลูกค้าเว็บพนันที่มาเปิดบัญชีเพื่อเล่นพนันได้ง่ายดายและรวดเร็ว และเมื่อมีการตรวจค้นหรือบุกจับกุม ก็มักจะไหวตัวทันและไม่พบหลักฐานใด
อย่างไรก็ตามจากกรณีดังกล่าวนั้น ทำให้สังคมตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ที่มีการเข้าถึงได้อย่างง่ายดายจากกลุ่มอาชญากรที่เชื่อมโยงกับการพนัน หรือโดยเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นผู้บังคับใช้กฏหมาย โดยเจ้าหน้าที่รัฐนั้นร่วมมือกับมิจฉาชีพ หรือเป็นมิจฉาชีพในคราบเจ้าหน้าที่รัฐเสียเอง แล้วแบบนี้จะหาความเชื่อมั่นและความปลอดภัยได้จากที่ไหน และหากว่าข้อมูลดังกล่าวตกอยู่ในมือของอาชญากรต่างประเทศ อาจทำให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงได้