ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 14 มี.ค.2566
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันอังคาร (14 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลหลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ และทั่วโลกได้ออกมาสร้างความเชื่อมั่นว่าจะสามารถควบคุมวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร นอกจากนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่อ่อนแรงลงยังเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,155.40 จุด พุ่งขึ้น 336.26 จุด หรือ +1.06%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,919.29 จุด เพิ่มขึ้น 63.53 จุด หรือ +1.65% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,428.15 จุด พุ่งขึ้น 239.31 จุด หรือ +2.14%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร (14 มี.ค.) โดยเป็นการปรับตัวขึ้นวันเดียวมากที่สุดในรอบเกือบ 3 เดือน หลังได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งร่วงลงก่อนหน้านี้จากวิกฤตล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 449.56 จุด เพิ่มขึ้น 6.76 จุด หรือ +1.53%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,141.57 จุด เพิ่มขึ้น 130.07 จุด หรือ +1.86%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,232.83 จุด เพิ่มขึ้น 273.36 จุด หรือ +1.83% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,637.11 จุด เพิ่มขึ้น 88.48 จุด หรือ +1.17%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (14 มี.ค.) โดยเป็นการปรับตัวขึ้นวันเดียวมากที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลงอย่างหนักท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะชะลอความแรงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังเกิดวิกฤต SVB ด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,637.11 จุด เพิ่มขึ้น 88.48 จุด หรือ +1.17% หลังร่วงลงวันเดียวหนักที่สุด 2.6% ในรอบกว่า 8 เดือน
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนในวันอังคาร (14 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่า วิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐฯ อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง 3.47 ดอลลาร์ หรือ 4.6% ปิดที่ 71.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน พ.ค. ลดลง 3.32 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 77.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมัน WTI และสัญญาน้ำมันเบรนท์ ต่างปิดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 2565 และต่างก็ร่วงลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.ปีนี้
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (14 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 5.60 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 1,910.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 11.70 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 22.04 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 7.60 ดอลลาร์ หรือ 0.76% ปิดที่ 997.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 41 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 1,517.70 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (14 มี.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้ออ่อนแรงลง ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.01% แตะที่ระดับ 103.5933
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3681 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3727 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.4665 โครนา จากระดับ 10.5984 โครนา
แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 134.16 เยน จากระดับ 133.31 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9132 ฟรังก์ จากระดับ 0.9110 ฟรังก์
ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.0740 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0733 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2172 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2198 ดอลลาร์
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 32,155.40 จุด เพิ่มขึ้น 336.26 จุด, +1.06%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,919.29 จุด เพิ่มขึ้น 63.53 จุด, +1.65%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 11,428.15 จุด เพิ่มขึ้น 239.31 จุด, +2.14%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,141.57 จุด เพิ่มขึ้น 130.07 จุด, +1.86%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,232.83 จุด เพิ่มขึ้น 273.36 จุด, +1.83%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,637.11 จุด เพิ่มขึ้น 88.48 จุด, +1.17%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,008.90 จุด ลดลง 99.90 จุด, -1.41%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,201.10 จุด ลดลง 109.90 จุด, -1.50%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,222.04 จุด ลดลง 610.92 จุด, -2.19%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,348.97 จุด ลดลง 61.63 จุด, -2.56%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 15,360.42 จุด ลดลง 200.07 จุด, -1.29%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,245.31 จุด ลดลง 23.38 จุด, -0.72%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 19,247.96 จุด ลดลง 448.01 จุด, -2.27%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 57,900.19 จุด ลดลง 337.66 จุด, -0.58%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,641.81 จุด ลดลง 145.14 จุด, -2.14%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,393.33 จุด ลดลง 151.12 จุด, -2.31%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,393.83 จุด ลดลง 28.00 จุด, -1.97%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,129.75 จุด ลดลง 2.62 จุด, -0.08%