ตลาดหุ้นไทยวานนี้ร่วงหนักปิดลบ 26.58 จุด กังวลวิกฤต SVB แต่โบรกฯ ยังมองบวก แนะจังหวะเก็งอัปไซด์ คาดหุ้น “ทรู” รับรู้ Synergy โอกาสสดใส
วันนี้ (14 มี.ค.) รายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับลดลงรับ Sentiment เชิงลบจากกระแส SVB (Silicon Valley Bank) ซึ่งเป็นธนาคารในสหรัฐฯ ที่ปล่อยกู้ให้ธุรกิจสตาร์ทอัปในกลุ่มเทคโนโลยีปิดกิจการ จากการประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง นักวิเคราะห์มองว่าเป็นจังหวะในการเข้าทำกำไรจากอัปไซด์ ซึ่งเป็นความกังวลของตลาดระยะสั้น ทำให้เป็นโอกาสในการเข้าเก็งกำไร รวมถึงหุ้นทรูรับรู้การ Synergy จึงคาดว่ามีแนวโน้มและโอกาสสดใส
นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) คาดการณ์ว่า TRUE จะสร้างกำไรสุทธิในปี 2566 ที่ 5.3 พันล้านบาท และกำไรสุทธิในปี 2567 ที่ 1.07 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิในปี 2568 ที่ 1.81 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ ยังคาดเงินปันผลสำหรับปี 2566 อยู่ที่ 0.17 บาทต่อหุ้น อัตราเงินปันผลตอบแทน 2% และในปี 2567 อยู่ที่ 0.32 บาทต่อหุ้น อัตราเงินปันผลตอบแทน 3.8% และในปี 2568 อยู่ที่ 0.53 บาทต่อหุ้น อัตราเงินปันผลตอบแทน 6.2% จากราคาหุ้นอ้างอิงที่ 8.51 บาท
นอกจากนี้ บทวิเคราะห์ของ บล.กสิกรไทย แสดงความคิดเห็นว่า ส่วนที่ยากที่สุดของ TRUE ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ความรุนแรงของการแข่งขันลดลง ภาพรวมของธุรกิจมีโมเมนตัมเชิงบวก TRUE จะเริ่มเห็นกำไรตั้งแต่ปี 2566 และจะรับรู้ผลของการ Synergy สูงที่สุด คือ ปี 2568 พร้อมทั้งค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้ NT สิ้นสุดลงในเดือนสิงหาคม ปี 2568 พูดง่ายๆ คือ อนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้าใน TRUE นั่นเอง
ทั้งนี้ TRUE มี Outperform call และราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 10.32 บาท จากการพลิกกลับของกำไรอย่างรวดเร็วตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 จากการประหยัดต้นทุน และต้นทุนการลงทุนกว่า 60% มูลค่าตามราคาตลาดที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งรายได้จากโทรคมนาคมมากที่สุด และอัตราส่วนผลตอบแทนต่อเงินลงทุนเพื่อการดำเนินงานของบริษัท หรือ ROIC ที่ดีขึ้น โดย TRUE ตั้งเป้าหมายที่จะขยายความครอบคลุมของ 5G จาก 80% ของประชากรในปี 2565 เป็น 98% ในปี 2569 ทำให้ TRUE อยู่ในตำแหน่งโครงสร้างพื้นฐานเซลลูลาร์ที่ดีที่สุดในตลาด