xs
xsm
sm
md
lg

SO รายได้ปี 65 นิวไฮ 2.3 พันล้าน ปันผล 0.20 บาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สยามราชธานี ปี 65 ทำรายได้รวมสูงสุดใหม่ 2,320 ล้านบาท เติบโต 10% เทียบจากปีก่อน รับเทรนด์ลูกค้าเปลี่ยนนโยบายมาใช้ outsourcing พุ่ง ตั้งเป้าปีนี้เติบโตมากกว่า 10% รับปีแห่งการทรานส์ฟอร์เมชัน หลายบริษัทกลับมา Lean องค์กรรักษาการแข่งขันด้านต้นทุน มองหานวัตกรรมใหม่ช่วยกระบวนการทำงานมากขึ้น ลุยจับมือพาร์ตเนอร์นำเข้านวัตกรรมใหม่ๆ เสริมศักยภาพด้าน outsource ต่อเนื่อง ขณะบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลหุ้นละ 0.20 บาท


น.ส.กัณธิมา แจ้งวันสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ผู้นำด้านธุรกิจการจ้างเหมาบริการครบวงจร (Outsourcing Services) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทสามารถทำรายได้รวมสูงสุดใหม่ (New High) อยู่ที่ 2,320 ล้านบาท เติบโต 10% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยหลักเกิดจากเทรนด์ลูกค้าที่เปลี่ยนนโยบายมาใช้ outsourcing มากขึ้น

ในส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากต้นทุนดำเนินการที่สูงขึ้น โดยเฉพาะค่าพนักงานทดแทนสำหรับพนักงาน outsource ที่ติดเชื้อโควิดระหว่างการดำเนินงานตามสัญญา และค่าซ่อมในส่วนของรถยนต์ให้เช่า โดยบริษัทมีกำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 169 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.30% เทียบจากปีก่อน และมีสินทรัพย์รวม จำนวน 1,917 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.55% โดยมาจากการเพิ่มขึ้นของรายการสินทรัพย์ให้เช่าจากจํานวนรถยนต์ให้เช่าที่เพิ่มขึ้น จํานวน 318 คัน

"การเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในทุกวันนี้ โดยเฉพาะจากโรคระบาดและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลให้ธุรกิจต้องปรับตัวและพยายามรักษาความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน หลายบริษัทเริ่มให้ความสำคัญกับกิจกรรมหลักที่สร้างคุณค่าให้แก่องค์กรมากขึ้น และใช้กลยุทธ์ outsource ในการแบ่งเบาภาระการบริหารจัดการสนับสนุนฟังก์ชันต่างๆ เช่น การซ่อมบำรุง การขนส่ง และการจัดการด้านเอกสาร ซึ่งทั้งหมดล้วนจะเป็นผลดีต่อธุรกิจของเราต่อไปในอนาคตอย่างมาก" น.ส.กัณธิมา กล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2565 มีบริษัทบริหารจัดการกองทุน (บลจ.) มาให้บริษัทช่วยดูแลกระบวนการทำความรู้จักกับลูกค้า (KYC) และจัดการเอกสารลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้โฟกัสในส่วนงานหลักซึ่งคือบริหารกองทุนให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น และบริษัทได้ออกแบบและพัฒนากระบวนการ Customer onboarding แบบครบวงจร (turnkey solution) โดยเปลี่ยนจากการส่งมอบแรงงานเป็นการส่งมอบทั้งกระบวนการทางธุรกิจ จัดหาเทคโนโลยีที่เหมาะสม รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพให้กระบวนการ (Process Optimization) เพื่อลดความสูญเสียในกิจกรรมที่ไม่จำเป็น เช่น ระยะเวลารอคอย การดำเนินการด้านเอกสารที่้ซ้ำซ้อน การจัดเก็บที่ไม่เป็นระบบ เป็นต้น

น ส.กัณธิมา กล่าวว่า สำหรับภาพรวมในปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้จะเติบโตมากกว่า 10  เทียบจากปีก่อน เนื่องจากเป็นปีแห่งการทรานส์ฟอร์เมชัน หลายบริษัทเริ่มหันกลับมาใช้กลยุทธ์การลดหรือตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นทั้งเรื่องของเวลาและเงินทุน (Lean) ขององค์กร เพื่อรักษาความสามารถการแข่งขันด้านการบริการจัดการต้นทุน รวมไปถึงการหานวัตกรรมใหม่ๆ มาช่วย Digitize กระบวนการทำงานมากขึ้น ซึ่งบริษัทเองมีทีมงานพร้อมเข้าไปให้คำปรึกษาเรื่องกระบวนการแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล (Digitization) และการเพิ่มประสิทธิภาพให้กระบวนการ (Process Optimization)

นอกจากนี้ จากการที่บริษัทมีความสัมพันธ์กับลูกค้าในทุกอุตสาหกรรมกว่า 700 สัญญา และส่งบุคลากร outsource กว่า 10,000 อัตรา บริษัทมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์ทดสอบนวัตกรรม (Sandbox) เพื่อช่วยฟักตัว (Incubate) บริษัทเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัปที่มีศักยภาพและต้องการเงินทุน

โดยปัจจุบันได้เริ่มโครงการกับบริษัท outsource และบริษัท IT Implementor บางรายแล้ว ซึ่งหากพิจารณาแล้วมีศักยภาพ บริษัทพร้อมลงทุนและร่วมพัฒนาธุรกิจเพื่อเติบโตไปด้วยกัน "โดยในปีที่แล้วเราได้มีการร่วมมือกับบริษัทสตาร์ทอัปที่เชี่ยวชาญ AI การวางแผนการดำเนินงานขนส่ง (Route Optimization) ที่จะช่วยจัดการเส้นทางการเดินรถ และอยู่ระหว่างพูดคุยกับ Technology Partner อื่นๆ โดยเฉพาะผู้ให้บริการ HRM Platform ผู้ให้บริการการรู้จำอักขระด้วยแสง หรือ OCR และผู้ให้บริการระบบการจ่ายค่าแรงรายวัน" น.ส.กัณธิมา กล่าว

นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทยังคงพัฒนาความสามารถของส่วนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยในกระบวนการทางธุรกิจ โดยเฉพาะ Flow หรือ Business Management Application ที่บริษัทพัฒนาขึ้นมาเอง จะช่วยในการวางกระบวนการด้านเอกสารและกระบวนการทำงานต่างๆ และเก็บข้อมูลเพื่อนำมาสร้างเป็น Dashboard เพื่อให้หัวหน้างานและผู้บริหารทราบถึงข้อมูล สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาองค์กรได้ในระยะยาว

และบริษัทยังคงหาพาร์ตเนอร์ที่จะช่วยเสริมศักยภาพการให้บริการ outsource โดยเฉพาะ Professional Training ที่จะช่วย Reskill บุคลากรให้ตรงกับความต้องการตลาด โดยเฉพาะบุคลากรด้านไอทีและนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ บริษัทยังคงหาพาร์ตเนอร์เพื่อนำเข้านวัตกรรมใหม่ 
ๆ เพื่อมาเสริมศักยภาพด้าน outsource อย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าไปสู่การเป็นบริษัท Tech Company ตามแผน จากเดิมเป็น Traditional Outsourcing

อย่างไรก็ดี ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ได้มีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ในวันที่ 19 เมษายน 2566 พิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงาน 6 เดือนหลังของปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 เมษายน 2566 และวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 17 พฤษภาคม 2566

ซึ่งหากได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 จะถือว่าบริษัทได้จ่ายเงินปันผลรวมตลอดทั้งปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท โดยได้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2565 ไปแล้วเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น