หุ้นไทยปิดตลาด +11.63 จุด โบรกฯ ชี้ตัวเลขเงินเฟ้อของเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 13 เดือน แนะจับตาท่าทีประธานเฟด ซึ่งหากเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ อาจกดดันให้ภาพการลงทุนและดัชนี SET INDEX ทรุดลงอีกรอบ มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับสำคัญที่ 1,610 จุด และแนวต้านที่ 1,630-1,635 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 7 มี.ค. 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +11.63 จุด หรือ +0.72% โดยปิดตลาดที่ 1,618.51 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,540.88 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีเคลื่อนไหวปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,624.78 จุด ในทิศทางตรงกันข้ามที่ปรับลดลงต่ำสุด 1,612.80 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 839 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 493 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 679 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +2,144.14 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,368.92 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -25.32 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -749.90 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.TRUE มูลค่าการซื้อขาย 7,036.86 ล้านบาท ปิดที่ 8.40 บาท ลดลง 0.20 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,590.34 ล้านบาท ปิดที่ 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,039.96 ล้านบาท ปิดที่ 141.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
4.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,837.36 ล้านบาท ปิดที่ 69.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
5.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,592.05 ล้านบาท ปิดที่ 996.00 บาท เพิ่มขึ้น 20.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 996.00 บาท เพิ่มขึ้น 20.00 บาทหรือ 2.05%
2.SCC ปิดที่ 334.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาทหรือ 1.83%
3.BH ปิดที่ 213.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาทหรือ 1.43%
4.EGCO ปิดที่ 163.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาทหรือ 1.55%
5.EA ปิดที่ 76.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาทหรือ 2.70%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.TOP ปิดที่ 52.50บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.41%
2.STA ปิดที่23.60บาท ลดลง 0.70 บาท หรือ 2.88%
3.IVL ปิดที่36.75 บาท ลดลง 0.50บาท หรือ 1.34%
4.SINGER ปิดที่21.80 บาท ลดลง 0.40บาท หรือ1.80%
5.SABUY ปิดที่11.80 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 1.67%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,174.14 จุด เพิ่มขึ้น 14.26 จุด หรือ 0.66% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 967.02 จุด เพิ่มขึ้น 6.12 จุด หรือ 0.64% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 563.62 จุด เพิ่มขึ้น 6.26 จุด หรือ 1.12%
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดีดตัวขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่มี Momentum ดีขึ้น ขณะที่ยังได้แรงหนุนจากปัจจัยในประเทศ หลังตัวเลขเงินเฟ้อของไทยเดือน ก.พ.ชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 มาอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ขึ้นกับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรสสหรัฐในคืนนี้ หากยังคงส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือคุมเข้มนโยบายการเงิน อาจทำให้ตลาดมีแรงเหวี่ยงลงมาทดสอบแนวรับอีกรอบ และจะสร้างบรรยากาศอึมครึมไปจนกว่าจะถึงการประชุมเฟดในช่วงกลางเดือน มี.ค.นี้ โดยมองกรอบแนวรับสำคัญไว้ที่ 1,610 จุด เป็นจุดที่ไม่ควรหลุด ส่วนแนวต้านที่ 1,630-1,635 จุด