"ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง" เปิดตัว “Jele Chewy” เยลลี่เคี้ยวหนึบรสชาติใหม่ กลิ่นนมเปรี้ยว เอาใจผู้บริโภคที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ ต้อนรับซัมเมอร์ ฟากผู้บริหาร “วิโรจน์ วชิรเดชกุล” มั่นใจการออกสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง หนุนผลงานปี 66 โตต่อเนื่องตามแผน
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหชน) (SNNP) ผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยวของประเทศไทย เปิดเผยว่า การเปิดตัว “Jele Chewy” (เจเล่ ชิววี่) ผลิตภัณฑ์เยลลี่เคี้ยวหนึบรสชาติใหม่ กลิ่นนมเปรี้ยว หลังจากที่เปิดตัวสินค้ามาถึง 7 รสชาติ ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับและกระแสดีกว่าที่คาดไว้ ทางบริษัทจึงได้พัฒนารสชาติใหม่กลิ่นนมเปรี้ยว เพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่อยากได้รสชาติใหม่ๆ เป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและตอกย้ำความเป็นผู้นำทางการตลาด
“Jele Chewy รสชาติใหม่ ยังคงมีจุดเด่นที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์เยลลี่ทั่วไป นั่นคือ เนื้อเยลลี่มีความพิเศษ เคี้ยวหนึบ มีวิตามินอี บี1 บี2 บี6 และบี12 และปราศจากแคลอรี ทำให้เรามั่นใจว่า Jele Chewy จะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของเจเล่ที่ครองใจผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วไม่ต่างจาก 7 รสชาติที่ทำตลาดมาแล้วก่อนหน้านี้ โดยหลังจากนี้เราจะใช้กลยุทธ์การตลาดทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ครบวงจร เพื่อสื่อสารไปให้ถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด รวมทั้งการทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และโปรโมชันพิเศษ ณ จุดขาย เป็นการสร้างสีสันให้ตลาดเยลลี่ และช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของ SNNP ในฐานะผู้นำตลาดขนมขบเคี้ยวของไทยให้แข็งแกร่งมากขึ้น มีสินค้าที่หลากหลายตอบโจทย์ผู้บริโภค” นายวิโรจน์ กล่าว
การเปิดตัว Jele Chewy (เจเล่ ชิววี่) รสชาติใหม่ กลิ่นนมเปรี้ยว เป็นการเจาะกลุ่มการตลาดของทุกช่วงทุกวัย และยังเป็นรสชาติยอดนิยมในกลุ่มเด็ก และวัยรุ่นที่มีความเทรนดี้ และชื่นชอบความแปลกใหม่ เป็นการสานต่อกลยุทธ์ในการนำเสนอสินค้าให้กลุ่มเป้าหมายแต่ละช่วงวัย นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพและควบคุมน้ำหนัก ไม่ว่าจะพกติดตัวไว้รับประทานเล่น หรือจะเป็นของว่างระหว่างมื้ออาหารก็ได้ ซึ่งสามารถพบกับความอร่อยสไตล์ใหม่จาก Jele Chewy ทั้งหมด 8 รสชาติ ได้ที่ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า การออกสินค้าใหม่ๆจะช่วยกระตุ้นยอดขายของบริษัทฯ ให้เติบโตต่อเนื่อง นอกจากการเติบโตของแผนธุรกิจแล้ว ยังมีแนวโน้มเติบโตจากส่วนของนักท่องเทียวที่เข้ามาซื้อสินค้าของบริษัทฯ โดยภาคการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ โดยในปี 2566 คาดว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้
