ทาคูนิ กรุ๊ป ฟาดรายได้ปี 2565 กว่า 3.8 พันล้าน ดันกำไรพุ่งกว่า 105% โดยรายได้หลัก มาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง รองลงมาคือรายได้จากธุรกิจขายแก๊ส ชี้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างยังเป็นรายได้หลัก ส่วนธุรกิจผลิตและจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคาดอีก 3 ปีข้างหน้าขึ้นแท่นเป็นรายได้หลัก
น.ส.นิตา ตรีวีรานุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อย งวดปี 2565 มีกำไรเบ็ดเสร็จส่วนของบริษัทใหญ่ จำนวน 130.93 บาท เพิ่มขึ้น 67.27 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 105.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2564 ที่มีกำไรเบ็ดเสร็จส่วนของบริษัทใหญ่จำนวน 63.66 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 3,824.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,095.06 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 40.12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีรายได้จากการขายและบริการ 2,729.21 ล้านบาท
น.ส.นิตา กล่าวต่อว่า รายได้หลักของกลุ่ม TAKUNI มาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างกว่า 3,139 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 941.92 ล้านบาท คิดเป็น 42.86% เนื่องจากการส่งมอบงานรับเหมาก่อสร้างน้ำมันและแก๊สที่ได้รับการว่าจ้างในปี 2564 ซึ่งอยู่ในช่วงกลางสัญญา จึงทำให้สามารถส่งมอบอำนาจควบคุมในงานให้ลูกค้าได้มากกว่าปีก่อน ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีงานรับเหมาก่อสร้างน้ำมันและแก๊สที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและยังไม่รับรู้รายได้ จำนวน 2,430.83 ล้านบาท และมีรายได้จากธุรกิจขายแก๊ส 541.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น131.44 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32.07% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 409.90 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจขนส่งทางบกเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 43.34% เนื่องจากกลุ่มบริษัทได้ขยายฐานลูกค้าไปในส่วนงานขนส่ง LPG กับบุคคลภายนอกเพิ่มมากขึ้น รายได้จากธุรกิจธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ติดตั้งระบบแก๊สเพิ่มขึ้น 67.55% เนื่องจากราคาน้ำมันที่ผันผวน ทำให้ผู้ใช้รถยนต์และโรงงานอุตสาหกรรมมีความสนใจในการติดตั้งระบบแก๊สเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้จากธุรกิจบริการจัดหาพนักงานรักษาความปลอดภัย โดยในช่วงเดือนธันวาคม 2565 กลุ่มบริษัทได้ลงทุนในบริษัทย่อยสัดส่วน 51.00% ซึ่งประกอบธุรกิจจัดหาพนักงานรักษาความปลอดภัย แม่บ้าน และพนักงานธุรการ ซึ่งรับรู้รายได้ในงบการเงินรวมจำนวน 14.25 ล้านบาท ขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัทยังมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 244.66%
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ น.ส.นิตา กล่าวว่า รายได้ส่วนใหญ่จะยังมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และมีรายได้เสริมจากธุรกิจใหม่บางส่วน เช่น ธุรกิจให้บริการจัดหาพนักงาน และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แต่ในอนาคตอีก 3 ปีข้างหน้า คาดว่ารายได้หลักจะมาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ภาพรวมของอัตรากำไรสุทธิดีขึ้น
โดยในปีนี้กลุ่มทาคูนิมีความพร้อมอย่างมากในการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อผลิตและจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าทั้งในประเทศไทย ไต้หวัน มาเลเซีย และอินโดนีเซีย รองรับการปรับเปลี่ยนนโยบายของประเทศต่างๆ ไปสู่ธุรกิจพลังงานสะอาด เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาโลกร้อน