ตราเพชรมั่นใจตลาดก่อสร้างปี 66 ขยายตัวต่อเนื่อง เดินหน้าขยายกำลังผลิตกระเบื้องเพิ่ม 100,000 ตันต่อปี วางเป้ารายได้รวมโต 5% รับดีมานด์-กำลังซื้อขยายตัว
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวว่า บรรยากาศด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วง 1เดือนครึ่งที่ผ่านมาถือว่ายังอยู่ในระดับที่ดี แต่ยังเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนไม่ได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในปีนี้ตลาดจะมีการขยายตัวต่อจากปีก่อนหน้า และเพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวของตลาดในปี 66 นี้ บริษัทได้วางเป้าหมายรายได้เติบโต 5% จากรายได้ปี 65 ซึ่งมีรายได้รวม 5,250 ล้านบาท
โดย DRT เตรียมความพร้อมการบริหารจัดการทุกด้าน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันการทำตลาดให้แก่แบรนด์ ‘ตราเพชร’ ทั้งด้านประสิทธิภาพการผลิตโดยรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยทั้งปีไม่ต่ำกว่า 90% เพื่อสนับสนุนการทำตลาด โดยจะร่วมมือกับคู่ค้าพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในทุกช่องทางการจำหน่ายเพื่อขับเคลื่อนแผนงานให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับกลยุทธ์ปีนี้ DRT จะมุ่งต่อยอดข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันแบรนด์ ‘ตราเพชร’ ที่มีความหลากหลายผลิตภัณฑ์ สามารถก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง ทั้งระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ บอร์ดตกแต่งผนัง อิฐมวลเบา ผ่านการนำเสนอแบบโชลูชันนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ ด้วยจุดเด่น Function และ Fashion ที่ติดตั้งง่าย สะดวก รวดเร็ว มีรูปแบบและสีสันสวยงาม พร้อมบริการด้วยทีมช่างมืออาชีพตอบโจทย์ความต้องการคู่ค้า และเพิ่มมูลค่าการขายให้สูงขึ้น
นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจำหน่ายที่ครอบคลุมทั้งร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายย่อย ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ ผู้ประกอบการอสังหาฯ และตลาดต่างประเทศเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ DRT สามารถบริหารพอร์ตสินค้าและ Product Mix เพื่อรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยช่องทางการจำหน่ายผ่านลูกค้าโครงการอสังหาฯ มีอัตราขยายตัวที่ดี ส่งผลให้สัดส่วนรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมอยู่ที่ 13% เพิ่มเป็น 16% ขณะที่ร้านค้าวัสดุก่อสร้างรายย่อยยังเป็นช่องทางจำหน่ายหลักมีสัดส่วนรายได้สูงสุดคิดเป็น 55% และห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่มีสัดส่วน 16% ของยอดขายรวมทั้งหมด และส่วนที่เหลืออีกกว่า 13% มาจากช่องทางตลาดต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน DRT มีแผนปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ดีขึ้นต่อเนื่องภายใต้งบลงทุน 200 ล้านบาท โดยจะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของไลน์การผลิตกระเบื้องหลังคาคอนกรีตและอิฐมวลเบา รวมถึงดำเนินโครงการเพื่อยกระดับโรงงานไปสู่ Smart Factory ส่วนความคืบหน้าการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตกระเบื้องคอนกรีตอีก 100,000 ตันต่อปี คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องจักรและผลิตสินค้าเชิงพาณิชย์ได้ภายในครึ่งปีแรกของปี 67
สำหรับผลการดำเนินงานปี 65 บริษัทฯ สามารถทำผลการดำเนินงานเติบโตได้มากกว่าเป้าหมาย โดยมีรายได้รวมเป็นสถิติสูงสุดที่ 5,250.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.80% และมีกำไรสุทธิ 625.61 ล้านบาท เติบโต 6.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน