ผ่านพุทธศักราชปี 2566 มาอย่างไม่ถึง 2 เดือน หุ้นเกรดเอ พิมพ์นิยมอย่างหุ้นในกลุ่ม SET100 หลายหลักทรัพย์เริ่มมีอัตราผลตอบแทนราคาติดลบกันแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มตระกูล J ของ นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยาทั้ง SINGER, JMT, JMART ที่ต่างพากันทำราคาลดต่ำลงอย่างหนัก โดยได้คัดเลือกหุ้นในกลุ่ม SET100 มา 10 หลักทรัพย์ ที่ราคาติดลบมากที่สุดในระดับ -13.00 % ถึงเกือบ -40.00%
1.SINGER (บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย) อัตราผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 คือ -39.84% (สิ้นปี 65 ปิด 28.75 บาท ล่าสุด 17 ก.พ.66 ปิด 17.30 บาท ลดลง 11.45 บาท) เทียบผลตอบแทนราคาปี 65 คือ -45.75%,ผลตอบแทนราคาปี 64 คือ +107.46%,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 59.25 /17.30 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 3.07% ,มาร์เก็ตแคป 14,226.52 ล้านบาท, ค่า P/E 15.98 เท่า
ผลประกอบการ 3 ปีหลัง มีกำไรสุทธิ เติบโตขึ้นทุกปี โดย ปี 63 กำไร 443.30 ล้านบาท,ปี 64 กำไร 700.59 ล้านบาท,ปี 65 กำไร 935.28 ล้านบาท ปัจจุบันมี บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) ถือใหญ่สุด 25.40% บริหารงานโดยนายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และมีนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา เป็นประธานกรรมการ
2.JMT (บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส) อัตราผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 คือ -33.69% (สิ้นปี 65 ปิด 69.00 บาท ล่าสุด 17 ก.พ.66 ปิด 45.75 บาท ลดลง 23.25 บาท) เทียบผลตอบแทนราคาปี 65 คือ +0.73%,ผลตอบแทนราคาปี 64 คือ +94.78%,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 88.25 / 42.00 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 2.37 % ,มาร์เก็ตแคป 66,756.48 ล้านบาท, ค่า P/E 38.03 เท่า
ผลประกอบการ 3 ปีหลัง มีกำไรสุทธิ เติบโตขึ้นทุกปี โดย ปี 63 กำไร 1,047.04 ล้านบาท,ปี 64 กำไร 1,400.37 ล้านบาท,ปี 65 กำไร 1,745.57 ล้านบาท ปัจจุบันมี บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) ถือใหญ่สุด 53.50% พร้อมมีคนดังร่วมถือหุ้น ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา 1.92 %,น.ส. พิชญ์สินี เสรีวิวัฒนา (ลูกสาวดร.ไพบูลย์) 1.11%, น.พ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี 0.96% บริหารงานโดย นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, และมี นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยาเป็นประธานกรรมการ
3.JMART (บมจ.เจ มาร์ท) อัตราผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 คือ - 33.13% (สิ้นปี 65 ปิด 40.75 บาท ล่าสุด 17 ก.พ.66 ปิด 27.25 บาท ลดลง 13.50 บาท) เทียบผลตอบแทนราคาปี 65 คือ -29.13%,ผลตอบแทนราคาปี 64 คือ +187.50%, ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 64.00 / 27.25 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 3.73% ,มาร์เก็ตแคป 39,711.96 ล้านบาท, ค่าP/E 23.95 เท่า
ผลประกอบการ 3 ปี โดย ปี 63 กำไร 797.87 ล้านบาท,ปี 64 กำไร 2,467.59 ล้านบาท,ปี 65 กำไร 1,794.96 ล้านบาท ปัจจุบันมี บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) ถือใหญ่สุด 14.63% และนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา 13.53%,น.ส.จุฑามาศ สุขุมวิทยา 5.58%, น.พ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี 1.99%,นายพีรนาถ โชควัฒนา 1.92% ,บริหารงานโดยนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และมี นายพิศณุ พงษ์อัชฌา ประธานกรรมการเป็นประธานกรรมการ
4.ESSO (บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย)) อัตราผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 คือ -29.36% (สิ้นปี 65 ปิด 12.60 บาท ล่าสุด 17 ก.พ.66 ปิด 8.90 บาท ลดลง 3.70 บาท) เทียบผลตอบแทนราคาปี 65 คือ +71.43%,ผลตอบแทนราคาปี 64 คือ -0.68%,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 15.00 / 7.20 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน N/A% ,มาร์เกตแคป 30,801.64 ล้านบาท, ค่าP/E 2.62 เท่า
ผลประกอบการ 3 ปีหลัง โดย ปี 62 ขาดทุน -3,065.70 ล้านบาท,ปี 63 ขาดทุน -7,911.07 ล้านบาท,ปี 64 กำไร 4,443.21 ล้านบาท,ปี 65 งบยังไม่ออก ปัจจุบันมี EXXONMOBIL ASIA HOLDINGS PTE. LTD. ถือใหญ่สุด 65.99% บริหารงานโดย นางราตรีมณี ภาษีผล กรรมการผู้จัดการและมี นางสุดา นิลวรสกุล เป็นประธานกรรมการ
5.BANPU (บมจ.บ้านปู) อัตราผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 คือ -20.44% (สิ้นปี 65 ปิด 13.70 บาท ล่าสุด 17 ก.พ.66 ปิด 10.90 บาท ลดลง 2.80 บาท) เทียบผลตอบแทนราคาปี 65 คือ +29.25%,ผลตอบแทนราคาปี 64 คือ +14.36%,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 15.00 / 10.50 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 2.88 % ,มาร์เก็ตแคป 92,150.36 ล้านบาท, ค่าP/E 2.12 เท่า
ผลประกอบการ 3 ปี หลังโดย ปี 62 ขาดทุน -552.86 ล้านบาท,ปี 63 ขาดทุน -1,786.32 ล้านบาท, ปี 64 กำไร9,851.80 ล้านบาท,ปี 65 งบยังไม่ออก ปัจจุบันมี บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือใหญ่สุด 17.00% บริหารงานโดย นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและมีนายชนินท์ ว่องกุศลกิจ เป็นประธานกรรมการ
6.GUNKUL (บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง) อัตราผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 คือ - 19.62% (สิ้นปี 65 ปิด 5.25 บาท ล่าสุด 17 ก.พ.66 ปิด 4.22 บาท ลดลง 1.03 บาท) เทียบผลตอบแทนราคาปี 65 คือ -6.25%,ผลตอบแทนราคาปี 64 คือ +122.22%, ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 6.80 / 4.04 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 4.19 % ,มาร์เกตแคป 37,484.28 ล้านบาท, ค่าP/E 11.47 เท่า
ผลประกอบการ 3 ปีหลัง โดย ปี 62 กำไร 2,147.33 ล้านบาท,ปี 63 กำไร 3,412.34 ล้านบาท,ปี 64 กำไร 2,229.27 ล้านบาท ,ปี 65 งบยังไม่ออก ,ปัจจุบันมีบริษัท กันกุล กรุ๊พ จำกัด ถือใหญ่สุด 49.94% และมี นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา 1.88%,นายสุระ คณิตทวีกุล 1.88% บริหารงานโดยนาย สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และมี นายกัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์ เป็นประธานกรรมการ
7.PSL (บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง) อัตราผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 คือ -16.77% (สิ้นปี65 ปิด 16.10 บาท ล่าสุด 17 ก.พ.66 ปิด 13.40 บาท ลดลง 2.70 บาท) เทียบผลตอบแทนราคาปี 65 คือ -3.01%,ผลตอบแทนราคาปี 64 คือ +118.42%,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 21.80 / 12.80 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 12.87% ,มาร์เก็ตแคป 20,894.51 ล้านบาท, ค่าP/E 4.37 เท่า
ผลประกอบการ 3 ปีหลัง โดย ปี 63 ขาดทุน -1,294.86 ล้านบาท,ปี 64 กำไร 4,474.93 ล้านบาท,ปี 65 กำไร 4,850.79 ล้านบาท ปัจจุบันมี บริษัท โกลเบ๊กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ถือใหญ่สุด 28.40% บริหารงานโดยนายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ และมี นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา เป็นประธานคณะกรรมการบริษัท
8.KEX (บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย)) อัตราผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 คือ -15.76% (สิ้นปี 65 ปิด 18.40 บาท ล่าสุด 17 ก.พ.66 ปิด 15.50 บาท ลดลง 2.90 บาท) เทียบผลตอบแทนราคาปี 65 คือ -39.17 %,ผลตอบแทนราคาปี 64 คือ -38.58%,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 27.25 / 14.90 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน N/A% ,มาร์เก็ตแคป 27,009.94 ล้านบาท, ค่า P/E N/A เท่า
ผลประกอบการ 3 ปี หลัง มีกำไรสุทธิ เติบโตขึ้นทุกปี โดย ปี 62 กำไร 1,328.55 ล้านบาท,ปี 63 กำไร 1,405.03 ล้านบาท,ปี 64 กำไร 46.92 ล้านบาท,ปี 65 งบยังไม่ออก , ปัจจุบันมี บริษัท เคแอลเอ็น โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัดถือใหญ่สุด 52.06% บริหารงานโดย นายคิน เฮ็ง เน็ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและมี เป็นประธานกรรมการ นายเกล็ดชัย เบญจอาธรศิริกุล เป็นประธานกรรมการบริษัท
9.GLOBAL (บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์) อัตราผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 คือ -15.18% (สิ้นปี 65 ปิด 22.40 บาท ล่าสุด 17 ก.พ.66 ปิด 19.00 บาท ลดลง 3.40 บาท) เทียบผลตอบแทนราคาปี 65 คือ +16.87%,ผลตอบแทนราคาปี 64 คือ +23.00%,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 23.70 / 16.80 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 1.34% ,มาร์เก็ตแคป 91,233.00 ล้านบาท, ค่าP/E 26.16 เท่า
ผลประกอบการ 3 ปีหลัง มีกำไรสุทธิ เติบโตขึ้นทุกปี โดย ปี 63 กำไร 1,955.96 ล้านบาท,ปี 64 กำไร 3,343.58 ล้านบาท,ปี 65 กำไร 3,486.87 ล้านบาท ปัจจุบันมี บริษัท เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด ถือใหญ่สุด 32.37% บริหารงานโดยนายวิทูร สุริยวนากุล ประธานกรรมการบริหาร และมี นายอภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร เป็นประธานกรรมการ
10.EA (บมจ.พลังงานบริสุทธิ์) -14.18% อัตราผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 66 คือ -13.64% (สิ้นปี 65 ปิด 97.00 บาท ล่าสุด 17 ก.พ.66 ปิด 83.75 บาท ลดลง 13.25 บาท) เทียบผลตอบแทนราคาปี 65 คือ +1.04%,ผลตอบแทนราคาปี 64 คือ +94.92%,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 101.00 / 76.50 บาท ,อัตราเงินปันผลตอบแทน 0.36% ,มาร์เก็ตแคป 312,387.50 ล้านบาท, ค่าP/E 42.46 เท่า
ผลประกอบการ 3 ปีหลัง โดย ปี 62 กำไร 6,081.62 ล้านบาท,ปี 63 กำไร 5,204.57 ล้านบาท,ปี 64 กำไร 6,100.07 ล้านบาท,ปี 65 งบยังไม่ออก ,ปัจจุบันมี UBS AG SINGAPORE BRANCH ถือใหญ่สุด 32.89% นายสมโภชน์ อาหุนัย 11.05% บริหารงานโดย นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและมี นายสมใจนึก เองตระกูล เป็นประธานกรรมการ
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า นอกจากกลุ่มตระกูล J แล้วยังมีหุ้นในกลุ่มพลังงานติดอันดับมาด้วยอีก 4 หลักทรัพย์ คือ ESSO, BANPU, GUNKUL และ EA